เครือข่ายงดเหล้าฯ และ ก.คมนาคม จัดแคมเปญรณรงค์งดขาย-งดดื่มเหล้าบนรถไฟ หวั่นส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารโดยเฉพาะช่วงปีใหม่หยุดยาวมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เผย ปชช.กว่า 85.95% ชี้การขายและดื่มเหล้าบนรถไฟเป็นปัญหาใหญ่ และอาจนำไปสู่เหตุทะเลาะวิวาท ลวนลาม คุกคามทางเพศ และเห็นด้วยต่อการออกกฎหมายบังคับห้ามขาย คาดต้นปี 2557 คลอดกฎหมายบังคับใช้
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเวลา 10.00 น. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กว่า 100 คน จัดกิจกรรมรณรงค์ “เดินทางสุขใจ บนรถไฟงดเหล้า” เพื่อสร้างความตระหนักต่อผู้โดยสารและผู้ประกอบการ งดขายงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ และสถานีรถไฟ
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการร้องเรียนของผู้โดยสารรถไฟประกอบกับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนผู้โดยสารรถไฟ พบว่า ผู้โดยสารกว่า 85.95 % มองว่าการขายและดื่มสุราบนรถไฟ เป็นปัญหาใหญ่และส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสาร เกิดปัญหาเสียงดังรบกวนสร้างความรำคาญ ทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ ลวนลาม คุกคามทางเพศ และลักขโมย ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารส่วนใหญ่เห็นด้วยหากมีการออกกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มสุราบนรถไฟ เพราะช่วยให้ผู้โดยสารปลอดภัยและลดปัญหาความเดือดร้อนรำคาญ อีกทั้งยังเห็นด้วยหากกฎหมายนี้จะครอบคลุมไปถึงบริเวณสถานีรถไฟ
“ทางกระทรวงได้รับรายงานว่าฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ออกประกาศควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ รวมถึงสถานีรถไฟ และห้ามการเร่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ ซึ่งมีแนวปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอนที่ชัดเจนออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากจะให้มีกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มบนรถไฟรวมถึงสถานีรถไฟ ต้องรับฟังความคิดเห็นและประเมินผลกระทบให้รอบด้าน และต้องประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งดูแล พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ในการออกอนุบัญญัติ อาศัยอำนาจตาม มาตรา 27 และ 31 ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันในเร็วๆนี้” รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ดำเนินการโครงการนี้ เพราะมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นเตือนให้ผู้โดยสารรถไฟงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ รวมไปถึงบริเวณสถานีรถไฟทั่วประเทศ
ด้าน ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.เป็นต้นไป ประชาชนหยุดพักผ่อนเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน และคาดว่าการเดินทางด้วยรถไฟจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารอย่างยิ่ง แม้ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายโดยตรงที่จะควบคุมการขายการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความรำคาญและอุบัติเหตุกับผู้โดยสาร จึงอยากขอความร่วมมืองดขายงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและสถานีรถไฟ เพื่อให้บรรยากาศการเดินทางเป็นไปโดยเรียบร้อยไม่มีคนเมาขาดสติ พูดจาเสียงดังรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ที่สำคัญมีความเสี่ยงที่จะเกิดการทำร่ายร่างกายกันได้ง่าย อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในต้นปี 2557 จะสามารถออกกฎหมายดังกล่าวและบังคับใช้ได้ ซึ่งควรจะเสร็จทันสงกรานต์ โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ทั้งผู้ดื่มและผู้ขาย
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเวลา 10.00 น. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กว่า 100 คน จัดกิจกรรมรณรงค์ “เดินทางสุขใจ บนรถไฟงดเหล้า” เพื่อสร้างความตระหนักต่อผู้โดยสารและผู้ประกอบการ งดขายงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ และสถานีรถไฟ
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการร้องเรียนของผู้โดยสารรถไฟประกอบกับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนผู้โดยสารรถไฟ พบว่า ผู้โดยสารกว่า 85.95 % มองว่าการขายและดื่มสุราบนรถไฟ เป็นปัญหาใหญ่และส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสาร เกิดปัญหาเสียงดังรบกวนสร้างความรำคาญ ทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ ลวนลาม คุกคามทางเพศ และลักขโมย ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารส่วนใหญ่เห็นด้วยหากมีการออกกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มสุราบนรถไฟ เพราะช่วยให้ผู้โดยสารปลอดภัยและลดปัญหาความเดือดร้อนรำคาญ อีกทั้งยังเห็นด้วยหากกฎหมายนี้จะครอบคลุมไปถึงบริเวณสถานีรถไฟ
“ทางกระทรวงได้รับรายงานว่าฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ออกประกาศควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ รวมถึงสถานีรถไฟ และห้ามการเร่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ ซึ่งมีแนวปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอนที่ชัดเจนออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากจะให้มีกฎหมายห้ามขายห้ามดื่มบนรถไฟรวมถึงสถานีรถไฟ ต้องรับฟังความคิดเห็นและประเมินผลกระทบให้รอบด้าน และต้องประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งดูแล พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ในการออกอนุบัญญัติ อาศัยอำนาจตาม มาตรา 27 และ 31 ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันในเร็วๆนี้” รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ดำเนินการโครงการนี้ เพราะมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นเตือนให้ผู้โดยสารรถไฟงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ รวมไปถึงบริเวณสถานีรถไฟทั่วประเทศ
ด้าน ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.เป็นต้นไป ประชาชนหยุดพักผ่อนเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน และคาดว่าการเดินทางด้วยรถไฟจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารอย่างยิ่ง แม้ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายโดยตรงที่จะควบคุมการขายการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟ แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความรำคาญและอุบัติเหตุกับผู้โดยสาร จึงอยากขอความร่วมมืองดขายงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและสถานีรถไฟ เพื่อให้บรรยากาศการเดินทางเป็นไปโดยเรียบร้อยไม่มีคนเมาขาดสติ พูดจาเสียงดังรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ที่สำคัญมีความเสี่ยงที่จะเกิดการทำร่ายร่างกายกันได้ง่าย อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในต้นปี 2557 จะสามารถออกกฎหมายดังกล่าวและบังคับใช้ได้ ซึ่งควรจะเสร็จทันสงกรานต์ โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ทั้งผู้ดื่มและผู้ขาย