ASTVผู้จัดการรายวัน - บีทีเอสป่วน! ระบบควบคุมการเดินรถขัดข้องต้องหยุดเดินรถทั้งระบบ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงบ่ายโมง วันนี้ (24 ธ.ค.) จึงเดินรถได้ทั้งระบบอีกครั้ง แจงสาเหตุเกิดจากการทดสอบระบบติดตั้งประตูอัตโนมัติกั้นชานชาลา (PSD) ที่สถานีพร้อมพงษ์ ไปทำให้ระบบการเดินรถขัดข้อง ยืนยันเป็นปัญหาทางเทคนิคไม่เกี่ยวข้องการเมือง สูญรายได้ 5 ล้านบาท
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร นายอาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการ และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย Mr.Thomas Godfrey, Regional Engineering Director บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่นซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ แถลงข่าวกรณีรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้องในสองเส้นทางทั้งสายสุขุมวิท และสายสีลม โดยไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันที่ 24 ธ.ค. 2556
นายคีรีกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นโดยบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ฯ คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการทดสอบระบบติดตั้งรั้วและประตูอัตโนมัติกั้นขอบชานชาลา (Platform Screen Doors : PSD) ที่ติดตั้งบนสถานีสถานีพร้อมพงษ์ เมื่อเวลา 03.00 น.เช้าวันที่ 24 ธ.ค. ได้พบข้อบกพร่องของระบบอาณัติสัญญาณ ส่งผลกระทบทำให้ระบบการสื่อสารของควบคุมการเดินรถขัดข้องตามไปด้วย จนไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติเป็นเวลานาน 4 ชั่วโมง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบและรีบทำการแก้ไขในทันทีเพื่อให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ จนสามารถเปิดให้บริการเดินรถได้เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 24 ธ.ค. โดยยอมรับว่ายังมีข้อขัดข้องอีกเล็กน้อยตั้งแต่ช่วงสถานีชิดลม-อ่อนนุช จึงได้มีการปิดให้บริการช่วงดังกล่าวอีกครั้งเมื่อเวลา 12.35 น. ส่วนช่วงตั้งแต่หมอชิต-สยาม และตั้งแต่สถานีอุดมสุข-แบริ่ง และสายสีลมก็ยังให้บริการได้ตามปกติ แต่เมื่อเวลา 13.07 น.การเดินรถสายสุขุมวิทกลับมาเดินรถได้ทั้งระบบอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็งดการทดสอบระบบPSD ที่เชื่อมกับอาณัติสัญญาณออกไปก่อน
บริษัทฯ ได้มีการติดตั้งไป PSD จำนวน 9 สถานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร และอยู่ระหว่างการทดสอบระบบที่เชื่อมต่อระบบอาณัติสัญญาณก่อนเปิดใช้งาน โดยการทดสอบระบบดังกล่าวได้ดำเนินการหลังจากปิดให้บริการเดินรถ คือตั้งแต่เวลา 24.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทได้มีการทดสอบในสายสีลมเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างทดสอบในสายสุขุมวิท
อย่างไรก็ตาม หลังเที่ยงคืนวันที่ 24 ธ.ค.นี้ บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ฯ และบริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดและแก้ไขปัญหาให้ได้ก่อนเวลา 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น รวมทั้งหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการขัดข้องขึ้นอีก
ปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารเข้าระบบในช่วงเวลา 06.00-11.00 น.เฉลี่ยประมาณ 2 แสนเที่ยว คิดเป็นความเสียหายที่เกิดจากการหยุดให้บริการเดินรถในครั้งนี้ประมาณ 5 ล้านบาท โดยไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) และบีทีเอสกรุ๊ปแต่อย่างใด
“การเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้องทั้งระบบในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดินรถมา 14 ปี ซึ่งบริษัทได้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารเกือบ 2 พันล้านเที่ยว และยืนยันว่าจะทำระบบให้มีเสถียรภาพมากขึ้น จากเหตุขัดข้องในครั้งนี้ ทางบริษัทขอแสดงความเสียใจและขออภัยในความไม่สะดวกกับผู้โดยสารในครั้งนี้ รวมทั้งพิจารณายืดอายุตั๋วเดือน หรือเพิ่มจำนวนเที่ยวเดินรถให้ผู้โดยสารด้วย”
นายคีรีกล่าวว่า จากเหตุขัดข้องการเดินรถไฟฟ้าดังกล่าวนี้ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้สอบถามถึงสาเหตุและพร้อมให้การช่วยเหลือ โดยยืนยันว่าเหตุขัดข้องการเดินรถไฟฟ้าในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างที่มีกระแสข่าวระบุว่าหยุดเดินรถเพราะมีม็อบ แต่เกิดจากปัญหาทางเทคนิคของระบบ รวมทั้งบริษัทฯ ได้มีการประสานกับ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (รถไฟฟ้าใต้ดิน) และแอร์พอร์ตลิงค์ ก่อนเวลา 06.00 น.ว่าจะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการในระบบมากขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีมาตรการรองรับจากเหตุขัดข้องการเดินรถอยู่แล้ว โดยจะปรับมาใช้เป็นระบบManual แทน เพียงแต่ครั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการแก้ไข แต่ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้
Mr.Thomas กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับบีทีเอสในการทดสอบระบบ PSD เพื่อเชื่อมกับระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทดสอบระบบ PSD เรียบร้อยแล้ว 6 สถานีจากจำนวนสถานีทั้งหมดที่ติดตั้งประตูอัตโนมัติ 9 สถานี จากเหตุขัดข้องครั้งนี้ ทางบริษัทได้เรียกวิศวกรที่เดินทางกลับไปต่างประเทศให้กลับมาตรวจหาสาเหตุและทดสอบให้มั่นใจก่อนที่จะมีการเชื่อมกต่อกับระบบอาณัติสัญญาณเดินรถ
โดย 3 แนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังที่เกิดขึ้น 1. เร่งหาสาเหตุที่แท้จริง และแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก 2. หามาตรการใหม่สำหรับการทดสอบระบบ PSD ที่ต้องไม่กระทบกับการใช้บริการ และ 3. เพิ่มเจ้าหน้าที่เชิงเทคนิคในการแก้ไข
ปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอสมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 7-8 แสนเที่ยว/วัน โดยปีนี้จำนวนผู้โดยสารเติบโตขึ้นกว่า 8%สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7% และปีหน้าคาดว่าโตเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงนี้ทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น สร้างรายได้โตขึ้นอีก 1 ล้านบาท/วัน
บริษัทฯ มีจำนวนรถไฟฟ้าอยู่ 52 ขบวนๆ ละ 4 ตู้ ซึ่งวิ่งจริง 43 ขบวน ที่เหลือเป็นขบวนเสริมเพื่อรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งความสามารถของรถไฟฟ้าในการรองรับผู้โดยสารสูงสุด 5 หมื่นคน/ชั่วโมง/ทิศทาง แต่ปัจจุบันใช้จริงอยู่แล้ว 2 หมื่นคน/ชั่วโมง/ทิศทาง
