ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่ร่วงลงในไตรมาส 3 สู่ระดับ 1.266 ล้านล้านดอลลาร์ โดยลดลง 20% จากไตรมาส 2 ขณะที่ผู้ออกตราสารหนี้ได้ถอนตัวจากการขายพันธบัตร ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม สมาคมการค้าตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (EMTA) ระบุในแถลงการณ์ว่า กิจกรรมการซื้อขายลดลงเพียง 2% จากช่วงเดียวกันของปี 2012
นายเดวิด สปีเจล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดเกิดใหม่ของไอเอ็นจี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "การลดลงรายไตรมาสสอดคล้องกับการลดลงของการออกหุ้นกู้ ซึ่งการออกหุ้นกู้ใหม่ร่วงลง 30% ในช่วงเวลาเดียวกัน"
"พันธบัตรตลาดเกิดใหม่ (EM) มีความอ่อนไหวมากขึ้นต่อความไม่แน่นอนของตลาดพันธบัตรสหรัฐ และมีความชัดเจนว่า ความวิตกเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟดได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณการซื้อขาย"
ในช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ระบุถึงการชะลอการซื้อสินทรัพย์ของเฟด หลังจากที่เคยทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลง และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
การที่เฟดลดการซื้อพันธบัตรจากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์นั้น คาดว่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของผู้ออกพันธบัตรและผู้กู้ยืมเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ในขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ยังคงไม่แน่นอน
ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ของตลาดสหรัฐร่วงลง 7% สู่ 8.22 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับการซื้อขายในไตรมาส 2 นั้น ปริมาณการซื้อขายลดลง 21% ในไตรมาส 3 โดยคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของการซื้อขายตราสารหนี้โดยรวม
ตราสารหนี้ของเม็กซิโกมีการซื้อขายมากที่สุด 2.18 แสนล้านดอลลาร์ รองลงมาได้แก่ตราสารหนี้บราซิลที่ 1.54 แสนล้านดอลลาร์, อินเดียที่ 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์, แอฟริกาใต้ 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และรัสเซีย 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์
การซื้อขายยูโรบอนด์เพิ่มขึ้น 7% สู่ 4.37 แสนล้านดอลลาร์ใน ไตรมาส 3 จากปีก่อน แต่ร่วงลง 20% จากไตรมาส 2 เมื่อพิจารณาจากการออกตราสารหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น
ตราสารหนี้รัฐบาลคิดเป็นสัดส่วน 59% หรือ 2.56 แสนล้านดอลลาร์ของตลาดยูโรบอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2
ปริมาณการซื้อขายหุ้นกู้สกุลยูโรอยู่ที่ 1.72 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 39% ของกิจกรรมการซื้อขายทั้งหมด ลดลงจาก 41% ในไตรมาส 2
พันธบัตรรัฐบาลปี 2030 ของรัสเซียมีปริมาณการซื้อขาย 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเป็นพันธบัตรที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุดในตลาดยูโรบอนด์ ขณะที่พันธบัตรปี 2023 ของยูเครนมีการซื้อขาย 4 พันล้านดอลลาร์เช่นเดียวกับพันธบัตรปี 2023 ของบราซิล ส่วนพันธบัตรปี 2041 ของบราซิลมีปริมาณการซื้อขาย 3 พันล้านดอลลาร์ และพันธบัตรปี 2027 ของเวเนซุเอลามีปริมาณการซื้อขาย 3 พันล้านดอลลาร์
EMTA จัดทำผลการสำรวจโดยได้รับรายงานการซื้อขายตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่มากกว่า 90 ประเทศที่รายงานโดยวาณิชธนกิจ, ธนาคารพาณิชย์, บริษัทจัดการสินทรัพย์ และกองทุนเฮดจ์ฟันด์
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
อย่างไรก็ตาม สมาคมการค้าตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (EMTA) ระบุในแถลงการณ์ว่า กิจกรรมการซื้อขายลดลงเพียง 2% จากช่วงเดียวกันของปี 2012
นายเดวิด สปีเจล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดเกิดใหม่ของไอเอ็นจี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "การลดลงรายไตรมาสสอดคล้องกับการลดลงของการออกหุ้นกู้ ซึ่งการออกหุ้นกู้ใหม่ร่วงลง 30% ในช่วงเวลาเดียวกัน"
"พันธบัตรตลาดเกิดใหม่ (EM) มีความอ่อนไหวมากขึ้นต่อความไม่แน่นอนของตลาดพันธบัตรสหรัฐ และมีความชัดเจนว่า ความวิตกเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟดได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณการซื้อขาย"
ในช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ระบุถึงการชะลอการซื้อสินทรัพย์ของเฟด หลังจากที่เคยทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลง และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
การที่เฟดลดการซื้อพันธบัตรจากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์นั้น คาดว่าจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของผู้ออกพันธบัตรและผู้กู้ยืมเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ในขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ยังคงไม่แน่นอน
ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ของตลาดสหรัฐร่วงลง 7% สู่ 8.22 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับการซื้อขายในไตรมาส 2 นั้น ปริมาณการซื้อขายลดลง 21% ในไตรมาส 3 โดยคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของการซื้อขายตราสารหนี้โดยรวม
ตราสารหนี้ของเม็กซิโกมีการซื้อขายมากที่สุด 2.18 แสนล้านดอลลาร์ รองลงมาได้แก่ตราสารหนี้บราซิลที่ 1.54 แสนล้านดอลลาร์, อินเดียที่ 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์, แอฟริกาใต้ 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และรัสเซีย 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์
การซื้อขายยูโรบอนด์เพิ่มขึ้น 7% สู่ 4.37 แสนล้านดอลลาร์ใน ไตรมาส 3 จากปีก่อน แต่ร่วงลง 20% จากไตรมาส 2 เมื่อพิจารณาจากการออกตราสารหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น
ตราสารหนี้รัฐบาลคิดเป็นสัดส่วน 59% หรือ 2.56 แสนล้านดอลลาร์ของตลาดยูโรบอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2
ปริมาณการซื้อขายหุ้นกู้สกุลยูโรอยู่ที่ 1.72 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 39% ของกิจกรรมการซื้อขายทั้งหมด ลดลงจาก 41% ในไตรมาส 2
พันธบัตรรัฐบาลปี 2030 ของรัสเซียมีปริมาณการซื้อขาย 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเป็นพันธบัตรที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุดในตลาดยูโรบอนด์ ขณะที่พันธบัตรปี 2023 ของยูเครนมีการซื้อขาย 4 พันล้านดอลลาร์เช่นเดียวกับพันธบัตรปี 2023 ของบราซิล ส่วนพันธบัตรปี 2041 ของบราซิลมีปริมาณการซื้อขาย 3 พันล้านดอลลาร์ และพันธบัตรปี 2027 ของเวเนซุเอลามีปริมาณการซื้อขาย 3 พันล้านดอลลาร์
EMTA จัดทำผลการสำรวจโดยได้รับรายงานการซื้อขายตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่มากกว่า 90 ประเทศที่รายงานโดยวาณิชธนกิจ, ธนาคารพาณิชย์, บริษัทจัดการสินทรัพย์ และกองทุนเฮดจ์ฟันด์
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
