บอร์ด รฟม.เซ็งยุบสภาทำรถไฟฟ้าชะงัก คาดสายสีส้ม, ชมพู, ม่วงใต้เปิดให้บริการล่าช้ากว่าแผน 6 เดือน-1 ปี โบ้ย “คมนาคม” เน้น 2 ล้านล้านจนไม่ให้ความสำคัญรถไฟฟ้าเลยเสนอ ครม.ช้า ยัน รฟม.เสนอไปตั้งแต่ต้นปีแต่งานไม่เดินหน้า รอลุ้นหลังเลือกตั้ง เตรียมปรับกรอบเวลา ด้าน “ยงสิทธิ์” ฉลุยผ่านประเมิน 1 ปี
นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ว่า ที่ประชุมได้ประเมินผลกระทบจากการยุบสภาต่อการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 6 สายที่อยู่ในความรับผิดชอบของ รฟม. ซึ่งตามแผนแม่บทกำหนดให้ลงนามในสัญญาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 พบว่าขณะนี้ได้ส่งผลกระทบทำให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี) ระยะทาง 35.4 กิโลเมตร ซึ่งบอร์ด รฟม.ได้เห็นชอบในเฟสแรก จากสถานีศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) แล้ว และสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ระยะทาง 23 กิโลเมตร มีความล่าช้า โดยอาจจะเปิดให้บริการช้ากว่าแผนอย่างน้อย 6 เดือน-1 ปี
“ทุกโครงการผ่านกระบวนการพิจารณาของบอร์ด รฟม.ไปแล้ว โดยเสนอเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคมเพื่อรอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ต้นปี 2556 แต่เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นปัญหา เช่น มีข้อสังเกตต่างๆ ที่ต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมจึงทำให้ล่าช้า ซึ่งบอร์ดเห็นว่าส่วนหนึ่งเป็นความบกพร่องของ รฟม.ที่ไม่เร่งประสานงานผลักดัน แต่ที่สำคัญคือการผลักดันของกระทรวงคมนาคมไม่เต็มที่ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีงานมาก เพราะไปเน้นเรื่อง พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาทมาก จึงถือเป็นบทเรียนราคาแพงของ รฟม. เพราะโครงการพร้อมแล้วแต่เดินหน้าต่อไม่ได้เพราะยังไม่ผ่านการอนุมัติ และไม่รู้ว่าหลังเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จะได้รัฐบาลอย่างไร ทำงานได้เลยหรือไม่ ซึ่งหาก รมว.คมนาคมยังเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะส่งผลดีเพราะสามารถเดินหน้าโครงการได้ต่อเลย แต่ถ้าเปลี่ยนคนใหม่จะมีความไม่แน่นอน” นางสาวรัชนีกล่าว
โดยยอมรับว่า รฟม.ต้องปรับแผนการดำเนินงานและกรอบเวลาในแต่ละโครงการใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะประเมินภาพรวมอีกครั้งช่วงหลังเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้จะพยายามเร่งรัดงานในส่วนที่ทำได้ไปก่อน เช่น ประเด็นที่เป็นไปตามขั้นตอนปกติ งานต่อเนื่อง ไม่เกี่ยวกับด้านนโยบายที่ต้องให้การอนุมัติเห็นชอบ หรือเป็นโครงการใหม่และอยู่ในขอบเขตที่ ครม.รักษาการสามารถพิจารณาอนุมัติได้ เช่น ในเดือนมกราคม 2557 คาดว่าจะต้องเสนอ ครม.รักษาการอนุมัติการกู้เงินมาชำระค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) วงเงินประมาณหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ รฟม.ทำการสวอปหนี้เงินสกุลเยน ทำให้หยุดการกู้เงินจากไจก้า หันมากู้เงินในประเทศโดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเพื่อชำระค่าก่อสร้างแทน
นอกจากนี้ บอร์ดได้พิจารณาผลการประเมินการทำงานของนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าฯ รฟม.ครั้งที่ 2 หรือครบรอบ 1 ปี ซึ่งพบว่าได้รับคะแนนผ่านเกณฑ์และดีขึ้นกว่าการประเมินผลงานใน 6 เดือนแรก เพราะสามารถผลักดันโครงการและนำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ตามแผน