xs
xsm
sm
md
lg

PTTGC จับมือเปอร์ตามิน่าตั้งบริษัททำตลาด รองรับ “ปิโตรฯ คอมเพล็กซ์” ที่อินโดฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พีทีที โกลบอลฯ เซ็นสัญญาร่วมทุนกับพีที เปอร์ตามิน่าตั้งบริษัทร่วมทุนทำการตลาดและการค้าพอลิเมอร์ในอินโดนีเซีย เพื่อสร้างฐานการตลาดสำหรับโครงการร่วมทุน “ปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์” ที่อินโดฯ มูลค่า 4-5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าไตรมาส 1/57 จะลงนามสัญญาร่วมทุนกัน ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 61 ฟุ้งปีนี้บริษัทฯ โกยรายได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 5.5 แสนล้านบาท

นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) เปิดเผยภายหลังการลงนามสัญญาร่วมทุนเพื่อการทำตลาดและการค้ากับบริษัท พีที เปอร์ตามิน่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติอินโดนีเซียวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า การลงนามสัญญาตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวนี้เพื่อทำตลาดพอลิเมอร์ในอินโดนีเซีย และรับรู้ความต้องการใช้ในผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกต่างๆ เพื่อรองรับการร่วมทุนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์มูลค่า 4-5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอินโดนีเซียมีการนำเข้าเม็ดพลาสติกจากต่างประเทศถึงปีละ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และอีก 10 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาดจะเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

โดยบริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง (พีทีที พีเอ็ม) ได้ส่งเม็ดพลาสติก HDPE จากไทยไปจำหน่ายในอินโดนีเซียปีละ 6 หมื่นตัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 หมื่นตันหลังจากจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อทำการค้าและการตลาด

ส่วนความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่อินโดนีเซียนั้น คาดว่าไตรมาส 1/2557 จะได้ข้อสรุปทำเลที่ตั้งโครงการ รวมทั้งรายละเอียดโครงการต่างๆ อันจะนำไปสู่การลงนามสัญญาร่วมทุนของพีทีที โกลบอลฯ และพีที เปอร์ตามิน่า หลังจากทั้งสองบริษัทได้ลงนามข้อตกลงเบื้องต้นในการร่วมทุนทำการผลิต (HOA) เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเปอร์ตามีน่าจะถือหุ้นราว 51% และพีทีที โกลบอลฯ ถือหุ้น 49%

สำหรับทำเลที่ตั้งโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์นั้น เบื้องต้นมองที่ Plaju ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงกลั่นของเปอร์ตามีน่า ขนาด 1.25 แสนบาร์เรล/วัน และมีคอนเดนเสต ซึ่งสามารถตั้งโรงงานคอนเดนเสต สปริทเตอร์ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับวัตถุดิบในการผลิตได้หลายชนิด นอกเหนือจากแนฟทา

เบื้องต้นโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์จะตั้งโรงโอเลฟินส์ที่มีกำลังการผลิตเอทิลีน 1 ล้านตัน/ปี โพรพิลีน 5.5 แสนตัน/ปี และโครงการดาวน์สตรีม เช่น โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก HDPE, LDPE และผลิตภัณฑ์อื่นที่เป็นที่ต้องการของตลาดในอินโดนีเซีย โดยตั้งเป้าจะสร้างโรงงานเสร็จในปี 2561 ส่วนการหาพันธมิตรร่วมทุนรายที่ 3 นั้น คงต้องหลังจากลงนามสัญญาร่วมทุนกับเปอร์ตามิน่าก่อน

นายฮานุง บุดยา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการค้าและการตลาด บริษัท พีที เปอร์ตามิน่า กล่าวว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์นี้จะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 10%

นายบวรกล่าวถึงโครงการร่วมทุนกับปิโตรนาส ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของมาเลเซียนั้นว่า คงต้องมีการหารือความร่วมมือกันอีกครั้งในต้นปี 2557 หลังจากโครงการร่วมทุนได้ล่าช้าออกไป แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตโพลีออล และโรงงานผลิตฟีนอล

สำหรับความร่วมมือกับซิโนเคม ประเทศจีนนั้น ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะเดินทางไปหารือกับซิโนเคมอีกครั้งเพื่อพิจารณาแนวทางความร่วมมือเพิ่มเติม รวมทั้งขั้นตอนการทำตลาดในจีนก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง เบื้องต้นจะร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตโพลียูริเทน เนื่องจากมีเทคโนโลยีอยู่แล้ว และทางซิโนเคมก็ชวนให้บริษัทฯ เข้าไปร่วมทุนโครงการปิโตรเคมีตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องศึกษาอย่างรอบคอบ

นายบวรกล่าวถึงผลการดำเนินงานของพีทีที โกลบอลฯ ว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่ามีรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5.5 แสนล้านบาท และปีหน้าบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) เติบโตขึ้น 10% จากปีนี้ หลังจากโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 5 ของ ปตท.คาดว่าจะกลับมาเดินเครื่องได้เต็มที่ในเดือน เม.ย. 2557 หลังจากหยุดไปจากอุบัติเหตุฟ้าผ่า ทำให้ต้องลดกำลังการผลิตลงไป 50% ส่งผลกระทบต่อโรงงานโอเลฟินส์ของบริษัทฯ

ส่วนงบการลงทุน 5 ปี (2557-2561) ของบริษัทจะใช้เงินลงทุน 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการทั้งใน และต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น