xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นยอดขายนิคมฯ ปีหน้าวูบ 20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - จับตายอดขายนิคมฯ ในปีหน้าวูบกว่า 20% จากปีนี้ 5 พันไร่ เหตุมีปัจจัยลบเพียบทั้งปัญหาการเมือง คอร์รัปชัน ขาดแคลนแรงงาน กฎระเบียบใหม่บีโอไอ ทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันลดลง หมดเสน่ห์ในสายตาต่างชาติที่หันไปซบพม่าแทน

นายทวิช เตชะนาวากุล ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการขายที่ดินในนิคมฯ และเขตอุตสาหกรรมในปีหน้าคาดว่าจะลดลงกว่า 20% จากปีนี้ที่ประเมินยอดขายที่ดินในนิคมฯ ไว้ 5 พันไร่ เนื่องจากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งดัชนีคอร์รัปชันของไทยถูกจัดอันดับ 102 จากทั้งหมด 177 ประเทศที่สำรวจ แย่ลงจากปีก่อนที่เคยอยู่อันดับ 88 ของโลก การขาดแคลนแรงงานวิชาชีพ ค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยด้อยลงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนราคาขายที่ในนิคมฯ นั้น คาดว่าราคาขายที่ดินในนิคมฯ คงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก หากจะมีการปรับขึ้นก็คงไม่เกิน 3-5% เนื่องจากสถานการณ์ไม่เอื้อให้ผู้ประกอบการขยับขึ้นราคาขายที่ดินได้

“ในปีนี้ที่ยอดขายที่ดินยังเป็นไปตามเป้าหมาย 5 พันไร่ เนื่องจากฮอนด้ามีการขยายการลงทุนในกบินทร์บุรี 1 พันกว่าไร่ ส่วนการส่งเสริมทำนิคมอุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม (SME) นั้นยังไม่ได้รับการตอบสนองจากภาคเอกชนเท่าที่ควร”

นายทวิชกล่าวต่อไปว่า เสน่ห์การลงทุนของไทยในสายตาต่างชาติหดหายไปมาก จากเดิมที่เคยมองไทยเป็นสยามเมืองยิ้ม ค่าแรงถูก น่าอยู่ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก การส่งออกของไทยจากเดิมที่เป็นหัวใจสำคัญผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจากเคยเติบโตปีละ 15% ก็ลดลงจนปีนี้การส่งออกไม่โต ทั้งๆ ที่ครึ่งหลังปี 2556 ค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลงน่าจะส่งออกได้ดี สัญญาณนี้บ่งชี้ชัดว่าขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศลดลงมากอย่างน่าใจหาย อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เตรียมใช้กฎระเบียบการส่งเสริมการลงทุนใหม่ที่จะยกเลิกโซนนิ่ง แม้ว่าจะได้รับการคัดค้านจากภาคเอกชนก็ตาม ทำให้นักลงทุนต่างชาติเบรกลงทุนชั่วคราว

ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านได้มีการปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถเพิ่มขึ้น ทำให้ต่างชาติหันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพม่า ซึ่งกำลังเป็นประเทศที่มาแรงในสายตานักลงทุนต่างขาติ

ดังนั้น จึงอยากให้บีโอไอเลื่อนการบังคับใช้กฎเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ออกไปก่อน โดยให้ยึดใช้กฎระเบียบเดิม รวมทั้งส่งเสริมให้ภาคเอกชนหันมาเน้นการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการนิคมฯ ไทยมีทางออกไม่มากนัก หากความต้องการที่ดินในนิคมฯ ลดน้อยลง ก็คงต้องชะลอการพัฒนานิคมฯ ออกไปเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ

นายทวิช ในฐานะประธานบริษัท ไฮเทค กบินทร์ โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้นิคมฯ ไฮเทคกบินทร์ อินดัสเตรียล ปาร์ค ที่จังหวัดปราจีนบุรีไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เนื่องจากพื้นที่นิคมฯ นี้สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 30-40 เมตร และมียอดขายที่นิคมฯ ได้สูงกว่าเป้าหมาย 30% ของพื้นที่รวม 800 ไร่ คาดว่าปีหน้าจะขายที่ดินในนิคมฯ เพิ่มเติมอีก 100-200 ไร่เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่จะทยอยขายที่ดินในนิคมฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น