ทายาทตระกูล “พรประภา-พึ่งบุญพระ” ผนึกกำลังรุกธุรกิจอสังหาฯ ทุ่ม 800 ล้านบาทเปิดตัวคอมมูนิตีมอลล์โครงการแรก “เมส ทองหล่อ” ปากซอยทองหล่อ 4 บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ ชูจุดขายเฟ้นผู้เช่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพียง 25 ราย คาดโครงการแล้วเสร็จสิ้นปี 57 พร้อมทำรายได้จากค่าเช่าปีละ 50 ล้านบาท และคืนทุนได้ใน 7 ปี
นายปิพณ พึ่งบุญพระ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท แฮปปี้บิลเลี่ยน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่งก่อตั้งเมื่อประมาณเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาทเพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยกำลังเตรียมเปิดตัวโครงการไลฟ์สไตล์ชอปปิ้งมอลล์ภายใต้ชื่อ “เมส ทองหล่อ” (MAZE Thonglor) ขนาด 4 ชั้นครึ่ง บริเวณถนนทองหล่อ ซอย 4 บนพื้นที่ 1.07 ไร่ คิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างรวม 6.6 พันตารางเมตร และพื้นที่ขายเพื่อเช่า 3 พันตารางเมตร มีจำนวนร้านค้าและบริการต่างๆ 25 ร้าน
จุดเด่นของโครงการเมส ทองหล่อคือรูปแบบการก่อสร้างให้ตัวอาคารมีความโปร่งด้วยความสูงของเพดานชั้นละ 4 เมตร ร่วมกับกระจกโดยรอบให้มีลักษณะเป็นโอเพนมอลล์ นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถชั้นใต้ดินรองรับรถยนต์ 60 คัน โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณต้นเดือน ก.พ. 57 และจะเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปีเดียวกัน โดยใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการก่อสร้าง 300 ล้านบาท มูลค่าที่ดิน 500 ล้านบาท
“โครงการเมส ทองหล่อถือเป็นคอมมูนิตีมอลล์แห่งที่ 6 ในซอยทองหล่อ แต่ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่จึงทำให้มีความได้เปรียบกว่าโครงการอื่นๆ ขณะเดียวกันเราก็จะเน้นคัดเลือกผู้เช่าลักษณะไพรเวตแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและหลากหลายด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการประกอบธุรกิจ โดยจะคัดสรรธุรกิจละ 1 ราย และไม่เน้นผู้ประกอบการแฟรนไชส์ หรือเชนแบรนด์ดังต่างๆ เพื่อให้ผู้เช่าพื้นที่มีความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ และเป็นการดึงดูดความสนใจจากลูกค้าผู้มาใช้บริการ โดยจะเริ่มเปิดให้ผู้สนใจติดต่อเช่าพื้นที่ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.ศกนี้เป็นต้นไป โดยคิดราคา 1.7-2.5 พันบาทต่อตารางเมตร สัญญาเช่า 3 ปี”
ด้าน นางกุญช์ณิชา (พระประภา) พึ่งบุญพระ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท แฮปปี้บิลเลี่ยน จำกัด กล่าวว่า บริษัทใช้เวลาศึกษาโครงการประมาณ 1 ปี พบว่าในพื้นที่เขตวัฒนามีประชาชนอยู่อาศัยประมาณ 5 หมื่นครอบครัว มีคอนโดมิเนียมกว่า 70 โครงการ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ประมาณ 60 แห่ง ทั้งยังถือเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง จึงถือเป็นโอกาสดีต่อธุรกิจค้าปลีกและคอมมูนิตีมอลล์ โดยโครงการจะเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่พักอาศัยในพื้นที่บริเวณสุขุมวิทและใกล้เคียงในรัศมี 5 กิโลเมตร มีอายุระหว่าง 25-50 ปี มีระดับรายได้ตั้งแต่ 2.5 หมื่นบาทต่อเดือน โดยคาดว่าเมื่อเปิดโครงการจะมีลูกค้าหมุนเวียนมาซื้อสินค้าและบริการประมาณ 3 พันคนต่อวัน มีการจับจ่ายใช้สอยประมาณ 500-700 บาทต่อคนต่อครั้ง
“เราคาดว่าจะสามารถปิดการขายพื้นที่ทั้งหมดภายในไตรมาสแรกของปี 2557 โดยคาดว่าจะสามารถทำรายได้จากค่าเช่าได้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี และคืนทุนได้ภายใน 7 ปี ซึ่งถ้าหากผลตอบรับจากโครงการเมส ทองหล่อ อยู่ในระดับที่น่า
พอใจ บริษัทพร้อมจะลงทุนโครงการใหม่ๆ ทั้งในลักษณะคอมมูนิตีมอลล์ คอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และอื่นๆ บริเวณกรุงเทพฯ รอบนอกย่านรังสิต และบางใหญ่”
อนึ่ง โครงการ “เมส ทองหล่อ” แบ่งเป็น 4 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 ไลฟ์สไตล์ คาเฟ่ และคอฟฟี่ชอป และเบเกอรี ชั้น 2 ร้านอาหารนานาชาติ ชั้น 3 ร้านเสริมความงามและสปา และชั้น 4 โยคะ สถานออกกำลังกาย และไวน์ & ค็อกเทลบาร์ (Roof Top)
