ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซีพีเอ็น” ยันไม่ปรับลดเป้าหมายรายได้เติบโตเดิมปีนี้ที่ 15% ยันลงทุนระยะยาว ชี้สัญญาณบวกเริ่มกลับมาดีหลังสงกรานต์ ล่าสุดทุ่ม 6 พันล้านบาทผุดสาขาที่ 29 ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ยึดหัวหาดกรุงเทพฯ ตะวันออก กวาดลูกค้า 9 เขตด้วยคอนเซ็ปต์ “เดอะเฟิร์สต ฟูลสเกล ไลฟ์สไตล์ เอาต์ดอร์ ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์“ ใหญ่สุดในเอเชีย
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็นเปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงนี้ว่า ซีพีเอ็นมองการลงทุนในระยะยาว แม้ว่าช่วงนี้ไทยจะมีปัญหาด้านการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาวแล้วทุกอย่างก็จะจบจะดีขึ้น ซึ่งหลังสงกรานต์เป็นต้นมาภาวะต่างๆ ก็เริ่มดีมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งซีพีเอ็นเองก็ยังคงเป้าหมายการเติบโตปีนี้ไว้ที่ 15% เหมือนเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยน
ทั้งนี้ การเติบโตของซีพีเอ็นมาจากปัจจัยหลักคือ 1. การลงทุนเปิดสาขาใหม่ๆ 2. การจัดทำโปรโมชันส่งเสริมการขายต่างๆ 3. การที่ร้านค้าขายดีก็ทำให้ซีพีเอ็นมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งซีพีเอ็นได้ทำการปรับปรุงต้นทุนการบริหารงานให้ต่ำลงด้วย ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มพื้นที่การขายอย่างเดียวเท่านั้น
ปีนี้บริษัทฯ ยังคงใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000-15,000 ล้านบาทต่อปีซึ่งอยู่ในเกณฑ์เช่นนี้มากว่า 5 ปีแล้ว และเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 29 โครงการแล้ว โดยเป็นโครงการที่เปิดบริการแล้วจำนวน 25 สาขา ซึ่งสาขาล่าสุดที่เปิดไปแล้วคือสมุย และสาขาที่ 25 เตรียมจะเปิดอีก 2 เดือนจากนี้คือที่ศาลายา ส่วนโครงการที่ 26 คือระยองจะเปิดต้นปีหน้า ส่วนสาขาที่ 27 คือเวสต์เกต และสาขาที่ 28 โคราชอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สาขาใหม่ล่าสุดที่ประกาศเปิดตัวเมื่อวานนี้คือ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์ วิลล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หากรวมพื้นที่ทุกโครงการแล้วซีพีเอ็นจะมีพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 2.5 ล้านตารางเมตร
ล่าสุดคือการลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ “เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์ วิลล์” คอนเซ็ปต์เป็น “เดอะเฟิสต์ ฟูลสเกล ไลฟ์สไตล์ เอาต์ดอร์ ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์” (The First Full Scale Lifestyle Outdoor Shopping Center in Thailand) บนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ พื้นที่ 51 ไร่ มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ 135,000 ตารางเมตร ที่จอดรถ 1,900 คัน มอเตอร์ไซค์ 1,500 คัน กำหนดเปิดบริการไตรมาส 4 ปี 2558
“ทำเลนี้ถือว่าดี มีหมู่บ้านมากกว่า 130 โครงการ ครอบคลุมอาณาเขตกรุงเทพฯ มากกว่า 9 เขต คือมีคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงจากสถาบันการศึกษารวมกว่า 78 แห่ง รวมทั้งยังรองรับกลุ่มคนทำงานย่านเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิทได้ด้วย โดยมีร้านค้ามากกว่า 200 ร้านค้าและแม็กเนตใหม่ๆ ครบ เช่น ห้างเซ็นทรัล เซ็นทรัลฟูดฮอลล์ เพาเวอร์บาย ซูเปอร์สปอร์ต บีทูเอส โรงหนัง ฟูดคอร์ต โซนสัตว์เลี้ยง โซนจ็อกกิ้ง เป็นต้น”
โครงการนี้ออกเบบยึดแนวมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานและสร้างไลฟ์สไตล์ให้คล้ายกับ “อีสต์วิลเลจ” ย่านฮิบของนิวยอร์กบนเกาะแมนฮัตตันที่มีบาร์ ร้านหนังสือ คาเฟ่คลับ แกลเลอรีรองรับทุกคน หรือย่านมีทแพคที่นิวยอร์ก ย่านโกรฟที่ลอสแองเจลิส และย่านโคเวนต์การ์เดนที่ลอนดอน เป็นศูนย์การค้าแบบเอาต์ดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และบริการพิเศษ เช่น เปิดเซ็นทรัลฟูดฮอลล์ตั้งแต่ 7 นาฬิกา
โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นการรีเฟรชแบรนด์ “เฟสติวัล” ของซีพีเอ็น จากที่เป็นแบรนด์ศูนย์การค้าที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สื่อถึงความเป็นฮอลิเดย์สปิริต เน้นกลุ่มทัวริสต์เดสติเนชัน มาสู่การเป็นศูนย์ที่ทุกคนสามารถมาและผ่อนคลาซได้มากยิ่งขึ้น ทั้งชอปปิ้ง สังสรรค์ ชมงานศิลปะ ออกกำลังกาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองและความต้องการของคนในพื้นที่ย่านนั้นในคอนเซ็ปต์ เซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์ ซึ่งแต่เดิมเฟสติวัลของเรามี 6 สาขา คือที่พัทยา เชียงใหม่ หาดใหญ่ สมุย และภูเก็ต เป็นต้น
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็นเปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงนี้ว่า ซีพีเอ็นมองการลงทุนในระยะยาว แม้ว่าช่วงนี้ไทยจะมีปัญหาด้านการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาวแล้วทุกอย่างก็จะจบจะดีขึ้น ซึ่งหลังสงกรานต์เป็นต้นมาภาวะต่างๆ ก็เริ่มดีมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งซีพีเอ็นเองก็ยังคงเป้าหมายการเติบโตปีนี้ไว้ที่ 15% เหมือนเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยน
ทั้งนี้ การเติบโตของซีพีเอ็นมาจากปัจจัยหลักคือ 1. การลงทุนเปิดสาขาใหม่ๆ 2. การจัดทำโปรโมชันส่งเสริมการขายต่างๆ 3. การที่ร้านค้าขายดีก็ทำให้ซีพีเอ็นมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งซีพีเอ็นได้ทำการปรับปรุงต้นทุนการบริหารงานให้ต่ำลงด้วย ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มพื้นที่การขายอย่างเดียวเท่านั้น
ปีนี้บริษัทฯ ยังคงใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000-15,000 ล้านบาทต่อปีซึ่งอยู่ในเกณฑ์เช่นนี้มากว่า 5 ปีแล้ว และเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 29 โครงการแล้ว โดยเป็นโครงการที่เปิดบริการแล้วจำนวน 25 สาขา ซึ่งสาขาล่าสุดที่เปิดไปแล้วคือสมุย และสาขาที่ 25 เตรียมจะเปิดอีก 2 เดือนจากนี้คือที่ศาลายา ส่วนโครงการที่ 26 คือระยองจะเปิดต้นปีหน้า ส่วนสาขาที่ 27 คือเวสต์เกต และสาขาที่ 28 โคราชอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สาขาใหม่ล่าสุดที่ประกาศเปิดตัวเมื่อวานนี้คือ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์ วิลล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หากรวมพื้นที่ทุกโครงการแล้วซีพีเอ็นจะมีพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 2.5 ล้านตารางเมตร
ล่าสุดคือการลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ “เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์ วิลล์” คอนเซ็ปต์เป็น “เดอะเฟิสต์ ฟูลสเกล ไลฟ์สไตล์ เอาต์ดอร์ ชอปปิ้ง เซ็นเตอร์” (The First Full Scale Lifestyle Outdoor Shopping Center in Thailand) บนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ พื้นที่ 51 ไร่ มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ 135,000 ตารางเมตร ที่จอดรถ 1,900 คัน มอเตอร์ไซค์ 1,500 คัน กำหนดเปิดบริการไตรมาส 4 ปี 2558
“ทำเลนี้ถือว่าดี มีหมู่บ้านมากกว่า 130 โครงการ ครอบคลุมอาณาเขตกรุงเทพฯ มากกว่า 9 เขต คือมีคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงจากสถาบันการศึกษารวมกว่า 78 แห่ง รวมทั้งยังรองรับกลุ่มคนทำงานย่านเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิทได้ด้วย โดยมีร้านค้ามากกว่า 200 ร้านค้าและแม็กเนตใหม่ๆ ครบ เช่น ห้างเซ็นทรัล เซ็นทรัลฟูดฮอลล์ เพาเวอร์บาย ซูเปอร์สปอร์ต บีทูเอส โรงหนัง ฟูดคอร์ต โซนสัตว์เลี้ยง โซนจ็อกกิ้ง เป็นต้น”
โครงการนี้ออกเบบยึดแนวมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานและสร้างไลฟ์สไตล์ให้คล้ายกับ “อีสต์วิลเลจ” ย่านฮิบของนิวยอร์กบนเกาะแมนฮัตตันที่มีบาร์ ร้านหนังสือ คาเฟ่คลับ แกลเลอรีรองรับทุกคน หรือย่านมีทแพคที่นิวยอร์ก ย่านโกรฟที่ลอสแองเจลิส และย่านโคเวนต์การ์เดนที่ลอนดอน เป็นศูนย์การค้าแบบเอาต์ดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และบริการพิเศษ เช่น เปิดเซ็นทรัลฟูดฮอลล์ตั้งแต่ 7 นาฬิกา
โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นการรีเฟรชแบรนด์ “เฟสติวัล” ของซีพีเอ็น จากที่เป็นแบรนด์ศูนย์การค้าที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สื่อถึงความเป็นฮอลิเดย์สปิริต เน้นกลุ่มทัวริสต์เดสติเนชัน มาสู่การเป็นศูนย์ที่ทุกคนสามารถมาและผ่อนคลาซได้มากยิ่งขึ้น ทั้งชอปปิ้ง สังสรรค์ ชมงานศิลปะ ออกกำลังกาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองและความต้องการของคนในพื้นที่ย่านนั้นในคอนเซ็ปต์ เซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์ ซึ่งแต่เดิมเฟสติวัลของเรามี 6 สาขา คือที่พัทยา เชียงใหม่ หาดใหญ่ สมุย และภูเก็ต เป็นต้น
