“พาณิชย์” รุกต่อคุมค้าทองคำ เล็งกำหนดทุนจดทะเบียน ป้องกันผู้บริโภคถูกฉ้อโกง

“พาณิชย์” รุกต่อคุมระบบค้าทองคำ เล็งกำหนดให้ผู้ค้าทองคำที่จดทะเบียนนิติบุคคล ต้องมีทุนจดทะเบียนเพียงพอ หลังพบบางรายมีแค่ 1 ล้านบาท แต่เทรดทองวันละเป็น 100 ล้านบาท หวั่นผู้บริโภคถูกฉ้อโกง ด้านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมนัดหารืออีกรอบสัปดาห์หน้า กำหนดประเภทการค้าทอง และผู้ค้าทอง

นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมค้าทองคำ มีแนวคิดที่จะทบทวนการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลของผู้ค้าทองคำ โดยเฉพาะในเรื่องของทุนจดทะเบียน เพราะมีข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ปัจจุบันมีนิติบุคคลผู้ค้าทองคำจำนวน 1,866 ราย แต่บางรายมีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท แต่กลับซื้อขายทองคำสูงถึงวันละเป็น 100 ล้านบาท รวมทั้งให้มีการรายงานการครอบครองทองคำของร้านค้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อโกงในอนาคตระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

“ในการประชุมร่วมกับ ธปท. และสมาคมค้าทองคำ มีแนวคิดว่าจะทบทวนในเรื่องทุนจดทะเบียนของนิติบุคคล ซึ่งจะต้องมีมากขึ้นให้ครอบคลุมกับมูลค่าการค้าขาย ไม่ใช่ทุนจดทะเบียนต่ำ เวลามีปัญหาก็เรียกร้องอะไรไม่ได้ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อโกงในอนาคตเหมือนกับประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย และมาเลเซีย ที่เกิดความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ”

นายยรรยงกล่าวว่า ภาพรวมการซื้อขายทองคำ ทั้งทองรูปพรรณ และทองคำแท่งในไทยพบว่ามีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการค้าทองแบบเก็งกำไรและวิธีการขายทองไม่ได้อยู่เฉพาะในร้านค้าทองเท่านั้น แต่จะมีการค้าทองผ่านระบบออนไลน์และตั๋วสัญญาทองแท่งเพื่อการเก็งกำไรมากขึ้น โดยในปัจจุบันพบว่าประเทศไทยการนำเข้าทองมูลค่าเพียง 300,000 ล้านบาทต่อปี แต่มูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี

รายงานข่าวแจ้งว่า สัปดาห์หน้ากรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีการประชุมร่วมร่วมกับธปท. และสมาคมผู้ค้าทองคำ เพื่อกำหนดนิยามประเภทการค้าทองในแต่ละชนิด เพราะขณะนี้การค้าทองคำบางส่วนไม่มีทองอยู่หน้าร้านเหมือนในอดีต พร้อมทั้งจะมีการกำหนดนิยามของผู้ค้าทองคำในรูปแบบต่างๆ และออกประกาศกระทรวงภายใต้ พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ กำหนดให้ผู้ค้าทองคำในรูปแบบต่างๆ มาจดแจ้งทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจสอบของกรมการค้าภายใน

“เดิมการค้าทองจะมีการขึ้นทะเบียนนิติบุคคล แต่ในส่วนบุคคลธรรมดาไม่ได้มีการกำหนดไว้ ทำให้เป็นช่องว่างการฉ้อโกงและเก็งกำไรจากการค้าทองคำ ซึ่งแนวคิดต้องการดูแลผู้ค้าทองคำทุกชนิดให้อยู่ในระบบการตรวจสอบ เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ซึ่งหลังได้ข้อสรุปนิยามผู้ค้าทองแล้ว ก็จะเสนอให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์อนุมัติออกประกาศต่อไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาสมาคมค้าทองคำต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนนำหลักในการดูแลโบรกเกอร์ทองคำที่เปิดการซื้อขายทองคำผ่านระบบออนไลน์ เพราะในปัจจุบันมีบางบริษัทไปจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อจัดตั้งบริษัทในการค้าทองคำด้วยทุนจดทะเบียนต่ำเพียง 5 แสนบาท แต่ไม่มีการมาขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทซื้อขายทองคำกับสมาคมค้าทองคำ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนหากมีความผิดพลาดในการซื้อขายอาจไม่สามารถตรวจสอบความเสียหายได้