xs
xsm
sm
md
lg

“ยรรยง” เดินหน้าคุมระบบการค้าทองคำ ป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยรรยง” เดินหน้าต่อ วางระบบคุมเข้มการค้าขายทองคำเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งค่าเงิน และการฉ้อโกง หลังพบมีมูลค่าการค้าสูงมากปีละ 1 ล้านล้านบาท แต่ซื้อขายจริงแค่ 3 แสนล้านบาท

นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ได้หารือกับสมาคมค้าทองคำอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปการวางแนวทางการจัดการดูแลผู้ประกอบการค้าทองคำ ซึ่งพบว่ามีการค้าทองคำในรูปค้าสินค้าจริงประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อปี แต่มีมูลค่ารวมทางการค้าสูงถึง 1 ล้านล้านบาทต่อปี หรือมีเพียงหนึ่งในสามของทั้งหมดที่มีการซื้อขายสินค้าจริงๆ ซึ่งการหมุนเวียนของเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เช่น ผลกระทบต่อค่าเงิน เพราะการซื้อขายใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ และเป็นการตีราคาอิงตามภาพรวมเศรษฐกิจและความต้องการสินค้า ไม่ได้ตีมูลค่าตามความต้องการสินค้านั้นๆ จริงๆ

“ตอนนี้ขนาดการค้าทองคำมีขนาดใหญ่มากจนต้องเข้าไปดูแล ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ทั้งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมและผลในเชิงการฉ้อโกงหลอกลวงกัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีกฎหมายที่สามารถเข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว เป็นคนละส่วนจากที่หน่วยงานอื่นๆ ที่จะเข้ามาดำเนินการ” นายยรรยงกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้ออกประกาศให้สินค้าทองคำเป็นสินค้าควบคุมเมื่อปี 2552 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดมาตรการสำหรับดำเนินการเพื่อควบคุมสินค้าทองแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาการกำกับดูแลเน้นใช้อำนาจบริหาร เช่น การขอความร่วมมือ ซึ่งผู้ประกอบการหากไม่ให้ความร่วมมือภาครัฐจะใช้มาตรการทางกฎหมายต่อไป ส่วนข้อกฎหมายที่กระทรวงพาณิชย์น่าจะนำมาใช้ในการดูแลการซื้อขายทองคำในประเทศได้ คือ กฎหมายว่าด้วยการดูแลธุรกิจการค้าของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

สำหรับสถิติการนำเข้าทองคำที่ผ่านมามีอัตราขยายตัวที่ยังไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งหากมีการนำเข้ามาสูงมาก กระทรวงการคลังจะใช้ข้อกฎหมายที่มีอยู่ในการจำกัดการนำเข้าได้ทันที เพราะเป็นกฎหมายของกระทรวงการคลังโดยตรง

โดยการนำเข้าทองคำ ม.ค.-ก.ย. 2556 มูลค่า 12,285 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 37.4% ส่วนการนำเข้าช่วง ก.ย.ที่ผ่านมามูลค่า 723 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 56.8% ขณะที่การนำเข้าทั้งปี 2555 ที่ผ่านมามูลค่า 12,378 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 24.8% และปี 2554 มูลค่า 16,464 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 109.8%
กำลังโหลดความคิดเห็น