“คอฟโก” รัฐวิสาหกิจที่ดูแลการนำเข้าข้าวของจีน ตอกหน้า “พาณิชย์” ปัดไม่รู้ เป่ยต้าหวง ซื้อข้าวไทย 1.2 ล้านตัน ด้าน “ยรรยง”เผยจีนตกลงซื้อข้าวไทยปีละ 1 ล้านตัน 5 ปี ช่วยระบายสต๊อก แต่ผู้ส่งออกสวน ไม่เชื่อจีนนำเข้ามากขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคเอกชนไทยได้มีการสอบถามไปบริษัท คอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนที่รับผิดชอบในการซื้อข้าวจากต่างประเทศ ซึ่งเดินทางมาประเทศไทยร่วมกับคณะของนายกรัฐมนตรีของจีน ได้ให้ข้อมูลว่าไม่ทราบว่าไทยมีการขายข้าว 1.2 ล้านตัน ให้กับบริษัท เป่ยต้าหวง กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่เมืองเฮยหลงเจียง มณฑลฮาร์บิน และตั้งข้อสังเกตว่าปกติเมืองเฮยหลงเจียง ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีการนำเข้าในปริมาณน้อยมากไม่ถึง 1 ล้านตัน และบริโภคข้าวเมล็ดสั้น ไม่ใช่เมล็ดยาว
ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า สาเหตุที่การเซ็นสัญญาซื้อขายข้าว 1.2 ล้านตันล่าช้า เพราะติดเงื่อนไขของการทำรายละเอียดสัญญา แต่ยืนยันว่าจะต้องมีการเซ็นสัญญากับจีนอย่างแน่นอนภายในเดือนต.ค.นี้ แต่ปริมาณที่จะมีการนำเข้าในช่วงสิ้นปีนี้อาจเป็นลักษณะการทยอยนำเข้าไม่มากหรือหลัก 2 แสนตัน
นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ข้อตกลงที่จีนจะซื้อข้าวจากรัฐบาลไทยปีละ 1 ล้านตัน เป็นเวลา 5 ปี ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีจีนเยือนไทย ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารวมข้าวที่ซื้อจากเอกชนด้วยหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะซื้อจากรัฐบาลหรือเอกชนไทย ก็ถือว่าเป็นการซื้อข้าวไทย เพราะเอกชนไทยก็ต้องมาซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐบาล แต่เจตนารมย์ของจีนที่มีการประกาศว่าจะซื้อข้าวจากไทย มองว่าเป็นการช่วยเหลือไทย เนื่องจากไทยและจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าว กล่าวว่า การประกาศว่าจีนจะนำเข้าข้าวจากไทยปีละ 1 ล้านตันเป็นเวลา 5 ปี น่าจะเป็นความต้องการประชาสัมพันธ์ว่าข้าวไทยมีตลาดรองรับชัดเจน เพราะในทางปฎิบัติ จีนไม่เคยนำเข้าข้าวจากไทยเกินปีละ 5 แสนตัน มานานแล้ว ยกเว้นช่วง 10 ปีก่อนที่จีนประสบปัญหาภัยแล้ง ซึ่งมีการนำเข้ามากถึง 2 ล้านตัน
ทั้งนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(13ต.ค.)นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งสื่อมวลชนให้มารอทำข่าว ที่ท่าอากาศยาน กองบิน 6 เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะมีการแถลงข่าวใหญ่ในเวลา 14.00 น.แต่ยังไม่บอกประเด็นว่าเป็นเรื่องอะไร ทำให้มีสื่อมวลชนมารอเพื่อจะทำข่าวเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเวลา 14.30 น.ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังนำนาย หลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เยี่ยมชมสินค้าโอทอปที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ถือว่าเป็นโอกาสกันดีที่ได้มีการหารือร่วมกันเพิ่มเติม และบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยทางจีนก็ได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และการเยี่ยมชมศูนย์โอทอป นายกฯ จีนได้เห็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของ จ.เชียงใหม่ และชื่นชมผลงานที่มีการพัฒนาสินค้าต่างๆ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมการค้าการลงทุน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า โอกาสนี้ได้มีการหารือประเด็นเพิ่มเติม หลังจากที่มีการลงนามในเอ็มโอยู เรื่องการสั่งซื้อสินค้าเกษตร ซึ่งปกติทางภาคเอกชนก็ทำอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นความร่วมมือพิเศษที่เราได้ลงนามเซ็นสัญญาไป ซึ่งได้มีการลงนามซื้อข้าวจากไทย 1 ล้านตัน ในระยะเวลา 5 ปี แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย ก็เห็นควรปรับการซื้อข้าวจากไทยเพิ่มเติม มาเป็นปีละ 1 ล้านตัน เป็นลักษณะรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยเป็นโครงการต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาและจะเริ่มในทันที รวมถึงทางการจีนจะรับซื้อยางพาราจากไทย ปีละ 2 แสนตันด้วย (อ่าน ข่าวใหญ่ตรงไหน? “ปู” รีบอวด กล่อมจีนเซ็นขายข้าวจีทูจี 5 ปี ยางพารา 2 แสนตัน )