“ประธานบอร์ด รฟม.” ยันเดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ยึด กม.ร่วมทุนฉบับเก่าปี 35 ปัดเจรจา BMCL เจ้าของสัมปทานรายเดิม เผยตั้ง กก.มาตรา 13 และเริ่มทำงานไปแล้วก่อน พ.ร.บ.ร่วมทุนฉบับใหม่ปี 56 มีผล สั่งฝ่าย กม.ทำแผนงานแต่ละโครงการ พร้อมเร่ง กก.มาตรา 13 พิจารณาเหตุภาพรวมล่าช้ากว่า 2 เดือนแล้ว ด้าน BMCL เชื่อได้สิทธิ์เจรจาชี้รายเดิมเดินรถเชื่อมกับส่วนใต้ดินเดิมประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
น.ส.รัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมาได้เร่งรัดให้คณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ที่มีนายรณชิต แย้มสะอาด รองผู้ว่าฯ รฟม.เป็นประธานพิจารณาสัญญาการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแคและบางซื่อ-ท่าพระ) เนื่องจากมีความล่าช้ากว่าแผนมากว่า 2 เดือนแล้ว
ส่วนกรณีที่ทางบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เห็นว่าการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินควรปฎิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ฉบับใหม่ ปี 2556 เพราะจะเริ่มดำเนินการหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2556 นั้น ยืนยันว่าได้มีการแต่งตั้งกรรมการมาตรา 13 ของส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินไปนานแล้วและที่ผ่านมา กก.มาตรา 13 ได้เริ่มทำงานแล้ว มั่นใจว่าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2535 ฉบับเดิม
ทั้งนี้ บอร์ดได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของ รฟม.สรุปกรอบแผนการดำเนินโครงการที่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ว่าโครงการรถไฟฟ้าสายใดที่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ฉบับเก่าปี 2535 ซึ่งน่าจะเป็นโครงการที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว และโครงการใดที่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ฉบับใหม่ ปี 2556 ซึ่งน่าจะเป็นโครงการที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ เพื่อความชัดเจน
สำหรับการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินนั้นคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ รฟม.ใช้รูปแบบ (Public private Partnership : PPP- Gross Cost) คือ รัฐลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และจัดเก็บค่าโดยสาร โดยให้เอกชนลงทุนระบบรถไฟฟ้า ทำหน้าที่เดินรถแล้วจ่ายค่าจ้างแบบกำหนดราคาคงที่ ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) โดยบอร์ด รฟม.ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากกรรมการมาตรา 13 มีความเห็นเป็นอย่างอื่นก็สามารถเสนอปรับเปลี่ยนได้
“เรื่องสัญญาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บอร์ดไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายเพราะเป็นอำนาจของ กก.มาตรา 13 ที่จะพิจารณา ตั้งแต่กรอบเงื่อนไขร่างทีโออาร์ โดยล่าสุดนายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กรรมการบอร์ด รฟม.ในฐานะประธานอนุกรรมการก่อสร้างของ รฟม.ได้เร่งรัดให้ฝ่ายบริหาร รฟม.โดยเฉพาะมาตรา 13 ผลักดันงานในส่วนเดินรถสายสีน้ำเงินและเร่งรัดกให้เร็วขึ้นเนื่องจากการดำเนินโครงการมีความล่าช้ากว่าแผนแล้วประมาณ 2 เดือนแล้ว ส่วนจะปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ฉบับใหม่หรือเก่าไม่มีปัญหา เพราะถ้าอะไรที่มีผลดีต่อประเทศจะต้องเลือกแบบนั้นอยู่แล้ว” น.ส.รัชนีกล่าว
ด้านนายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ BMCL กล่าวว่า BMCL เชื่อว่าการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินน่าจะยึดตามข้อบังคับของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฉบับใหม่ปี 2556 เพราะการเจรจาต่างๆ จะเริ่มในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเท่ากับจะต้องใช้วิธีเจรจากับ BMCL ในฐานะที่เป็นผู้เดินรถรายเดิมที่มีการต่อเชื่อมกับสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย เพราะจะเกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุดในการใช้บริการ ซึ่งเป็นไปตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ฉบับใหม่ที่ให้เลือกวิธีที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด