อคส. โชว์แผนทำงานปี 57 เน้นดูแลโครงการจำนำ และช่วยค่าครองชีพประชาชน “ชนุตร์ปกรณ์” เตรียมเปิดตัวระบบเซมิ ออนไลน์ เพิ่มประสิทธิภาพจำนำข้าว และป้องกันการทุจริต มั่นใจช่วยแก้ปัญหาออกใบประทวนล่าช้า ป้องกันการปลอมแปลง และเชื่อมโยงข้อมูลจำนำแบบเรียลไทม์
นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (22 ก.ย.) อคส.จะแถลงนโยบายและยุทธศาสตร์การดำเนินงานของ อคส. ประจำปี 2557 โดยจะเน้นการทำงานและบริหารองค์กรเชิงรุก ควบคู่ไปกับการผลักดันนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CG-CSR) เพื่อสร้างความโปร่งใสในองค์กร และต้องการผลักดันให้ อคส. เป็นองค์กรที่มีส่วนร่วมหลักในการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ทั้งการดูแลเกษตรกร และดูแลด้านค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
ทั้งนี้ ในการดูแลเกษตรกร อคส. ได้มีการพัฒนาระบบไอทีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับจำนำ โดยจะมีการเปิดตัวระบบเซมิ ออนไลน์ เพื่อช่วยให้ขั้นตอนการรับจำนำข้าวให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยจะช่วยลดปัญหาการออกใบประทวนล่าช้า ลดปัญหาการสวมสิทธิการรับจำนำ และแก้ไขปัญหาความยากลำบากในการสืบค้นข้อมูล ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อโครงการรับจำนำ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เกษตรกร และป้องกันปัญหาการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้น
“ที่ผ่านมา การรับจำนำมักจะมีปัญหาการออกใบประทวนล่าช้า พบปัญหาการสวมสิทธิเกษตรกร เอกสารหลักฐานต่างๆ เก็บไว้เป็นกระดาษ ยากต่อการสืบค้น ไม่มีการจัดทำข้อมูลระบบการรับจำนำ การส่งข้อมูลจากจุดรับจำนำถึงส่วนกลางไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัย ซึ่งอาจถูกแก้ไขได้ แต่การนำระบบเซมิ ออนไลน์มาใช้ จะแก้ปัญหาที่ว่าได้หมด และทำให้การรับจำนำมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งต่อไป อคส. จะเร่งวางระบบให้สมบูรณ์ หลังจากที่ได้รับอนุมัติงบประมาณ 200 ล้านบาท จากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)” นายชนุตร์ปกรณ์กล่าว
สำหรับระบบเซมิ ออนไลน์ เป็นการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เดิมของ อคส. ให้มีความคล่องตัวและทันสมัยมากขึ้น เพื่อรองรับโครงการรับจำนำข้าว โดยจะรองรับการอ่านข้อมูลบัตรประชาชน ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลตัวเกษตรกรได้ การออกใบประทวนจะมีเลขกำกับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง จะมีการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดเพื่อป้องกันการสูญหาย รวมทั้งยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลการรับจำนำจากจุดรับจำนำมายังส่วนกลางได้ ซึ่งทำให้สามารถติดตามโครงการรับจำนำได้อย่างทันท่วงที
นายชนุตร์ปกรณ์ กล่าวว่า ในด้านการดูแล และช่วยเหลือประชาชนด้านค่าครองชีพ อคส. จะเข้าไปช่วยสนับสนุนรัฐบาลในการจัดทำข้าวถุงรวมใจ ซึ่งเบื้องต้นมีกำหนดทำ 2 แสนตัน จำนวน 40 ล้านถุง ราคาถุงละ 85 บาท โดยคาดว่าจะผลิตออกมาจำหน่ายได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่ง อคส. จะมีการติดตาม และประเมินผลการจำหน่ายข้าวถุงดังกล่าว หากไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน อคส.จะนำข้าวถุงของ อคส. เข้าไปเสริม
สำหรับเป้าหมายในการทำงาน ปี 2557 คาดว่า อคส. จะกลับมามีกำไร โดยตั้งเป้ามีรายได้เชิงพาณิชย์ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายข้าวสารตรา อคส. การให้เช่าคลังสินค้า การรับฝากสินค้า และให้เช่าห้องเย็น ซึ่งรายได้ดังกล่าวยังไม่รวมรายรับจากการทำงานตามนโยบายรัฐบาลในการแทรกแซงสินค้าเกษตร ทั้งนี้ อคส. ยังมีแผนที่จะเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายข้าวในต่างประเทศ ทั้งข้าวสารบรรจุถุง และข้าวสารที่มีอยู่ในสต๊อก ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
