สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันได้เริ่มต้นแผนการหลีกเลี่ยง การปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในวันที่ 1 ต.ค. แต่พรรครีพับลิกันตั้งเป้าว่าจะใช้ความขัดแย้งเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐในช่วงต่อมา เป็นiqxglเครื่องมือสำคัญในการต่อต้านโครงการประกันสุขภาพของประธานาธิบดีบารัค โอบามา หรือ "โอบามาแคร์"
สมาชิกพรรครีพับลิกันอาจเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ โดยสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ภายใต้การนำของพรรครีพับลิกันอาจพิจารณามาตรการที่จะให้เงินทุนดำเนินงานแก่หน่วยงานรัฐบาลต่อไป พร้อมกับมีการแปรญัตติเพื่อชะลอโอบามาแคร์ ทางด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า สหรัฐจะสามารถหลีกเลียงการปิดหน่วยงานราชการได้ ถ้าหากสมาชิกสภา คองเกรสพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันจำนวนหนึ่งร่วมมือกัน
อย่างไรก็ดี มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเผชิญหน้าครั้งสำคัญระหว่างทั้งสองพรรคจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า เมื่อพรรครีพับลิกันเสนอร่างกฎหมายเพิ่มอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาล พร้อมกับตั้งเงื่อนไขว่าต้องมีการชะลอโอบามาแคร์ด้วย
การปิดหน่วยงานราชการจะก่อให้เกิดความไม่สะดวกเป็นอย่างมากและปัญหาเรื่องเพดานหนี้อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงทางเศรษฐกิจได้ในอนาคต
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ถ้าหากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ รัฐบาลสหรัฐก็จะไม่สามารถกู้เงินใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้เก่าที่ครบกำหนดชำระในช่วงกลางเดือนต.ค. และอาจส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ โดยความเป็นไปได้ในการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดโลก และอาจทำให้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐ
การตัดสินใจนำโอบามาแคร์มาเป็นประเด็นหลักในความขัดแย้งเรื่องงบประมาณในครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันสายอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีจำนวนราว 80 คน ถึงแม้ผู้นำพรรครีพับลิกันกังวลว่ากลยุทธ์แบบนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ และอาจส่งผลเสียในทางการเมือง เพราะพรรคเดโมแครตมองว่าโอบามาแคร์เป็นประเด็นที่ไม่อาจต่อรองได้
ทางด้านปธน.โอบามาได้กล่าวต่อผู้นำธุรกิจว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันใช้วิธีการข่มขู่คุกคามด้วยการเรียกร้องให้ชะลอโอบามาแคร์ ไม่เช่นนั้นสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ปธน.โอบามากล่าวต่อกลุ่มบิสซิเนส ราวด์เทเบิลว่า "คุณไม่เคยพบมาก่อนว่า ในประวัติศาสตร์สหรัฐนั้น ได้มีการใช้เพดานหนี้หรือคำขู่ว่าจะไม่เพิ่มเพดานหนี้มาเป็นเครื่องมือในการข่มขู่ประธานาธิบดีหรือพรรครัฐบาล"
อย่างไรก็ดี สมาชิกพรรครีพับลิกันกล่าวเมื่อวานนี้ว่า พวกเขาจะบรรจุข้อเรียกร้องอื่นๆลงไปในร่างกฎหมายด้วย ซึ่งรวมถึงการอนุมัติท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน
นายเบน เบอร์นันเกั ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือน ในการแถลงข่าวว่า "การปิดหน่วยงานรัฐบาล และความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ อาจจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตลาดการเงินและต่อเศรษฐกิจ"
ทางด้านหอการค้าสหรัฐได้ส่งจดหมายถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "เพิ่มเพดานหนี้ในเวลาที่เหมาะสม และขจัดภัยคุกคามใดๆที่มีต่อความน่าเชื่อถือและความศรัทธาของรัฐบาลสหรัฐ"
ขณะนี้ทั้งสมาชิกพรรครีพับลิกันและสมาชิกพรรคเดโมแครตต่างก็เผชิญกับความไม่แน่นอนในความขัดแย่งครั้งนี้
สมาชิกพรรครีพับลิกันมีความเห็นแตกแยกกันเองในเรื่องกลยุทธ์ที่ใช้ โดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถควบคุมสมาชิกพรรคของตน และสมาชิกพรรครีพับลิกันกลุ่มที ปาร์ตีก็มองว่านายโบห์เนอร์เป็นศัตรู เพราะนายโบห์เนอร์ไม่ต้องการเชื่อมโยงปัญหางบประมาณเข้ากับโอบามาแคร์ โดยสมาชิกกลุ่มที ปาร์ตีบางคนถึงกับเรียกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับนี้ว่า "โบห์เนอร์แคร์" ด้วย
ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างปธน.โอบามากับสมาชิกพรรคเดโมแครตก็ย่ำแย่ลงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องซีเรียและตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยปธน.โอบามากล่าวว่า เพดานหนี้เป็นประเด็นที่ไม่อาจต่อรองได้ ดังนั้นถ้าหากมีการหารือกันระหว่างสมาชิกพรรครีพับลิกันและทำเนียบขาวในอนาคต ปธน.โอบามาก็จะตก อยู่ในสถานะที่ขาดความยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหานี้
นายโบห์เนอร์ได้ประกาศเริ่มต้นเคลื่อนไหวเรื่องร่างกฎหมายเมื่อวานนี้ ก่อนที่ปีงบประมาณ 2013 ของสหรัฐจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 ต.ค. โดยความเคลื่อนไหวในช่วงต่อจากนี้มีแนวโน้มว่าจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้:-
ในสัปดาห์นี้สภาผู้แทนราษฎรอาจจะอนุมัติร่างกฎหมายที่จัดสรรเงินทุนชั่วคราวให้แก่รัฐบาล เพื่อที่หน่วยงานราชการจะได้ไม่ต้องปิดทำการโดยนายโบห์เนอร์พยายามระดมเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน ให้ผ่านร่างกฎหมายนี้ ซึ่งจะมีผลถึงวันที่ 15 ธ.ค. โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเพดานงบรายจ่ายที่เคยกำหนดไว้ภายใต้มาตรการ sequester
อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายนี้ปฏิเสธที่จะจัดสรรงบให้แก่โอบามาแคร์ถึงแม้ว่าในเดือนหน้าจะเริ่มมีการนำโอบามาแคร์มาดำเนินการด้วยการให้ประชาชนที่ไม่มีประกันสุขภาพได้รับความช่วยเหลือในการทำประกัน
เป็นที่คาดกันว่า วุฒิสภาสหรัฐที่อยู่ภายใต้การนำของพรรคเดโมแครตจะรับร่างกฎหมายนี้จากสภาผู้แทนราษฎร แต่จะตัดข้อกำหนดเรื่องโอบามาแคร์ออกไป ก่อนจะส่งร่างกฎหมายฉบับนี้กลับมาให้สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติในขั้นสุดท้าย
ในการที่วุฒิสภาสหรัฐจะทำเช่นนี้ได้นั้น นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันอย่างน้อย 6 คน ในขณะที่วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนมองว่า การเชื่อมโยงโอบามาแคร์เข้ากับร่างกฎหมายให้เงินทุนแก่หน่วยงานรัฐบาลหรือร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ ถือเป็นการฆ่าตัวตายในทางการเมือง
ถ้าหากนายรีดประสบความสำเร็จ และถ้าหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคuเดโมแครตและพรรครีพับลิกันสามารถร่วมมือกันได้ในระดับที่มากพอ สภาผู้แทนราษฎรก็จะผ่านร่างกฎหมายฉบับที่ส่งมาจากวุฒิสภา และจะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐไม่ต้องปิดทำการเหมือนกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 1995 และต้นปี 1996
หลังจากนั้นสมาชิกพรรครีพับลิกันก็จะเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งเรื่องการปรับเพิ่มเพดานการกู้ยืมของรัฐบาลจากระดับ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังจะหมดหนทางในการหาเงินมาชำระหนี้ ในช่วงกลางเดือนต.ค.
สมาชิกพรรครีพับลิกันตั้งเป้าที่จะเชื่อมโยงมาตรการปรับเพิ่มเพดานหนี้ เข้ากับข้อกำหนดในการชะลอหรือยกเลิกโอบามาแคร์ และเงื่อนไขอื่นๆ เช่น การอนุมัติการวางท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน ซึ่งจะพาดผ่านพื้นที่ทั้งใน แคนาดา, ตอนกลางของสหรัฐ และชายฝั่งสหรัฐที่ติดอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น จากการวางท่อส่งนี้-
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจะขอให้บรรดาผู้นำภาคธุรกิจเรียกร้องต่อสภาคองเกรสให้อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในกลางเดือนหน้า
ทั้งนี้ ปธน.โอบามาจะแถลงต่อกลุ่มผู้นำธุรกิจ Business Roundtable อันเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันครั้งใหม่เพื่อให้ความสำคัญกับงบประมาณ ภายในประเทศและประเด็นด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่ให้ความสนใจกับนโยบายต่างประเทศมานาน 1 เดือน
คาดว่ากระทรวงการคลังสหรัฐจะไม่เหลือมาตรการที่จะใช้หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเกินเพดานหนี้ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์อย่างเร็วที่สุดในกลางเดือนต.ค. หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดาน ซึ่งจะทำให้สหรัฐจะไม่สามารถจ่ายหนี้ทั้งหมดและจะผิดนัดชำระหนี้
ปธน.โอบามาจะกล่าวต่อบรรดาผู้นำธุรกิจว่า พวกเขาควรเพิ่มแรงกดดันต่อสภาคองเกรสซึ่งต้องลงมติเพื่อเพิ่มเพดานการกู้ยืมของสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาแผนการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จะผูกเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้เข้ากับการระงับเงินทุนสำหรับการปรับปรุงระบบการประกันสุขภาพของปธน.โอบามา แต่ได้เลื่อนการลงมติเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคมองว่าแผนการดังกล่าวขาดความเฉียบขาด
มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางและมีการผิดนัดชำระหนี้จากความขัดแย้งด้านงบประมาณ แม้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ในความขัดแย้งครั้งที่ผ่านๆ มา
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า ปธน.โอบามาจะขอให้กลุ่มธุรกิจช่วยส่งสัญญาณถึงสภาคองเกรสว่า การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และต่อภาคธุรกิจทั่วประเทศ
"สมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมากระบุว่า จะเป็นการประมาทและไม่รับผิดชอบที่จะใช้ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้เป็นเครื่องต่อรอง แต่สมาชิกบางรายของพรรครีพับลิกันยังคงมีแนวโน้มที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐ" เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าว ปธน.โอบามาเตือนว่า เขาจะไม่เจรจาต่อรองเกี่ยวกับเพดานหนี้
นายเบรนแดน บัค โฆษกของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พรรครีพับลิกันไม่ได้ขู่เกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้
"ท่านประธานาธิบดีจะใช้เทคนิคที่สร้างความหวาดกลัวนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการแสดงความกล้าหาญในการจัดการกับวิกฤติหนี้ของเรา โดยข้อตกลงด้านการขาดดุลครั้งสำคัญทุกครั้งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมานั้น ได้ถูกผูกติดกับการเพิ่มเพดานหนี้ และในครั้งนี้ก็ไม่ควรจะแตกต่างกัน" นายบัคกล่าว
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group
สมาชิกพรรครีพับลิกันอาจเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ โดยสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ภายใต้การนำของพรรครีพับลิกันอาจพิจารณามาตรการที่จะให้เงินทุนดำเนินงานแก่หน่วยงานรัฐบาลต่อไป พร้อมกับมีการแปรญัตติเพื่อชะลอโอบามาแคร์ ทางด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า สหรัฐจะสามารถหลีกเลียงการปิดหน่วยงานราชการได้ ถ้าหากสมาชิกสภา คองเกรสพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันจำนวนหนึ่งร่วมมือกัน
อย่างไรก็ดี มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเผชิญหน้าครั้งสำคัญระหว่างทั้งสองพรรคจะเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า เมื่อพรรครีพับลิกันเสนอร่างกฎหมายเพิ่มอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาล พร้อมกับตั้งเงื่อนไขว่าต้องมีการชะลอโอบามาแคร์ด้วย
การปิดหน่วยงานราชการจะก่อให้เกิดความไม่สะดวกเป็นอย่างมากและปัญหาเรื่องเพดานหนี้อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงทางเศรษฐกิจได้ในอนาคต
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ถ้าหากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ รัฐบาลสหรัฐก็จะไม่สามารถกู้เงินใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้เก่าที่ครบกำหนดชำระในช่วงกลางเดือนต.ค. และอาจส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ โดยความเป็นไปได้ในการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดโลก และอาจทำให้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐ
การตัดสินใจนำโอบามาแคร์มาเป็นประเด็นหลักในความขัดแย้งเรื่องงบประมาณในครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันสายอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีจำนวนราว 80 คน ถึงแม้ผู้นำพรรครีพับลิกันกังวลว่ากลยุทธ์แบบนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ และอาจส่งผลเสียในทางการเมือง เพราะพรรคเดโมแครตมองว่าโอบามาแคร์เป็นประเด็นที่ไม่อาจต่อรองได้
ทางด้านปธน.โอบามาได้กล่าวต่อผู้นำธุรกิจว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันใช้วิธีการข่มขู่คุกคามด้วยการเรียกร้องให้ชะลอโอบามาแคร์ ไม่เช่นนั้นสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ปธน.โอบามากล่าวต่อกลุ่มบิสซิเนส ราวด์เทเบิลว่า "คุณไม่เคยพบมาก่อนว่า ในประวัติศาสตร์สหรัฐนั้น ได้มีการใช้เพดานหนี้หรือคำขู่ว่าจะไม่เพิ่มเพดานหนี้มาเป็นเครื่องมือในการข่มขู่ประธานาธิบดีหรือพรรครัฐบาล"
อย่างไรก็ดี สมาชิกพรรครีพับลิกันกล่าวเมื่อวานนี้ว่า พวกเขาจะบรรจุข้อเรียกร้องอื่นๆลงไปในร่างกฎหมายด้วย ซึ่งรวมถึงการอนุมัติท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน
นายเบน เบอร์นันเกั ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือน ในการแถลงข่าวว่า "การปิดหน่วยงานรัฐบาล และความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ อาจจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อตลาดการเงินและต่อเศรษฐกิจ"
ทางด้านหอการค้าสหรัฐได้ส่งจดหมายถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "เพิ่มเพดานหนี้ในเวลาที่เหมาะสม และขจัดภัยคุกคามใดๆที่มีต่อความน่าเชื่อถือและความศรัทธาของรัฐบาลสหรัฐ"
ขณะนี้ทั้งสมาชิกพรรครีพับลิกันและสมาชิกพรรคเดโมแครตต่างก็เผชิญกับความไม่แน่นอนในความขัดแย่งครั้งนี้
สมาชิกพรรครีพับลิกันมีความเห็นแตกแยกกันเองในเรื่องกลยุทธ์ที่ใช้ โดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถควบคุมสมาชิกพรรคของตน และสมาชิกพรรครีพับลิกันกลุ่มที ปาร์ตีก็มองว่านายโบห์เนอร์เป็นศัตรู เพราะนายโบห์เนอร์ไม่ต้องการเชื่อมโยงปัญหางบประมาณเข้ากับโอบามาแคร์ โดยสมาชิกกลุ่มที ปาร์ตีบางคนถึงกับเรียกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับนี้ว่า "โบห์เนอร์แคร์" ด้วย
ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างปธน.โอบามากับสมาชิกพรรคเดโมแครตก็ย่ำแย่ลงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องซีเรียและตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยปธน.โอบามากล่าวว่า เพดานหนี้เป็นประเด็นที่ไม่อาจต่อรองได้ ดังนั้นถ้าหากมีการหารือกันระหว่างสมาชิกพรรครีพับลิกันและทำเนียบขาวในอนาคต ปธน.โอบามาก็จะตก อยู่ในสถานะที่ขาดความยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหานี้
นายโบห์เนอร์ได้ประกาศเริ่มต้นเคลื่อนไหวเรื่องร่างกฎหมายเมื่อวานนี้ ก่อนที่ปีงบประมาณ 2013 ของสหรัฐจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 ต.ค. โดยความเคลื่อนไหวในช่วงต่อจากนี้มีแนวโน้มว่าจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้:-
ในสัปดาห์นี้สภาผู้แทนราษฎรอาจจะอนุมัติร่างกฎหมายที่จัดสรรเงินทุนชั่วคราวให้แก่รัฐบาล เพื่อที่หน่วยงานราชการจะได้ไม่ต้องปิดทำการโดยนายโบห์เนอร์พยายามระดมเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน ให้ผ่านร่างกฎหมายนี้ ซึ่งจะมีผลถึงวันที่ 15 ธ.ค. โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเพดานงบรายจ่ายที่เคยกำหนดไว้ภายใต้มาตรการ sequester
อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายนี้ปฏิเสธที่จะจัดสรรงบให้แก่โอบามาแคร์ถึงแม้ว่าในเดือนหน้าจะเริ่มมีการนำโอบามาแคร์มาดำเนินการด้วยการให้ประชาชนที่ไม่มีประกันสุขภาพได้รับความช่วยเหลือในการทำประกัน
เป็นที่คาดกันว่า วุฒิสภาสหรัฐที่อยู่ภายใต้การนำของพรรคเดโมแครตจะรับร่างกฎหมายนี้จากสภาผู้แทนราษฎร แต่จะตัดข้อกำหนดเรื่องโอบามาแคร์ออกไป ก่อนจะส่งร่างกฎหมายฉบับนี้กลับมาให้สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติในขั้นสุดท้าย
ในการที่วุฒิสภาสหรัฐจะทำเช่นนี้ได้นั้น นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันอย่างน้อย 6 คน ในขณะที่วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนมองว่า การเชื่อมโยงโอบามาแคร์เข้ากับร่างกฎหมายให้เงินทุนแก่หน่วยงานรัฐบาลหรือร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ ถือเป็นการฆ่าตัวตายในทางการเมือง
ถ้าหากนายรีดประสบความสำเร็จ และถ้าหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคuเดโมแครตและพรรครีพับลิกันสามารถร่วมมือกันได้ในระดับที่มากพอ สภาผู้แทนราษฎรก็จะผ่านร่างกฎหมายฉบับที่ส่งมาจากวุฒิสภา และจะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐไม่ต้องปิดทำการเหมือนกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 1995 และต้นปี 1996
หลังจากนั้นสมาชิกพรรครีพับลิกันก็จะเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งเรื่องการปรับเพิ่มเพดานการกู้ยืมของรัฐบาลจากระดับ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังจะหมดหนทางในการหาเงินมาชำระหนี้ ในช่วงกลางเดือนต.ค.
สมาชิกพรรครีพับลิกันตั้งเป้าที่จะเชื่อมโยงมาตรการปรับเพิ่มเพดานหนี้ เข้ากับข้อกำหนดในการชะลอหรือยกเลิกโอบามาแคร์ และเงื่อนไขอื่นๆ เช่น การอนุมัติการวางท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน ซึ่งจะพาดผ่านพื้นที่ทั้งใน แคนาดา, ตอนกลางของสหรัฐ และชายฝั่งสหรัฐที่ติดอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น จากการวางท่อส่งนี้-
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจะขอให้บรรดาผู้นำภาคธุรกิจเรียกร้องต่อสภาคองเกรสให้อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในกลางเดือนหน้า
ทั้งนี้ ปธน.โอบามาจะแถลงต่อกลุ่มผู้นำธุรกิจ Business Roundtable อันเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันครั้งใหม่เพื่อให้ความสำคัญกับงบประมาณ ภายในประเทศและประเด็นด้านเศรษฐกิจ หลังจากที่ให้ความสนใจกับนโยบายต่างประเทศมานาน 1 เดือน
คาดว่ากระทรวงการคลังสหรัฐจะไม่เหลือมาตรการที่จะใช้หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเกินเพดานหนี้ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์อย่างเร็วที่สุดในกลางเดือนต.ค. หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดาน ซึ่งจะทำให้สหรัฐจะไม่สามารถจ่ายหนี้ทั้งหมดและจะผิดนัดชำระหนี้
ปธน.โอบามาจะกล่าวต่อบรรดาผู้นำธุรกิจว่า พวกเขาควรเพิ่มแรงกดดันต่อสภาคองเกรสซึ่งต้องลงมติเพื่อเพิ่มเพดานการกู้ยืมของสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาแผนการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จะผูกเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้เข้ากับการระงับเงินทุนสำหรับการปรับปรุงระบบการประกันสุขภาพของปธน.โอบามา แต่ได้เลื่อนการลงมติเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคมองว่าแผนการดังกล่าวขาดความเฉียบขาด
มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางและมีการผิดนัดชำระหนี้จากความขัดแย้งด้านงบประมาณ แม้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ในความขัดแย้งครั้งที่ผ่านๆ มา
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า ปธน.โอบามาจะขอให้กลุ่มธุรกิจช่วยส่งสัญญาณถึงสภาคองเกรสว่า การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และต่อภาคธุรกิจทั่วประเทศ
"สมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมากระบุว่า จะเป็นการประมาทและไม่รับผิดชอบที่จะใช้ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้เป็นเครื่องต่อรอง แต่สมาชิกบางรายของพรรครีพับลิกันยังคงมีแนวโน้มที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐ" เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าว ปธน.โอบามาเตือนว่า เขาจะไม่เจรจาต่อรองเกี่ยวกับเพดานหนี้
นายเบรนแดน บัค โฆษกของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พรรครีพับลิกันไม่ได้ขู่เกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้
"ท่านประธานาธิบดีจะใช้เทคนิคที่สร้างความหวาดกลัวนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการแสดงความกล้าหาญในการจัดการกับวิกฤติหนี้ของเรา โดยข้อตกลงด้านการขาดดุลครั้งสำคัญทุกครั้งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมานั้น ได้ถูกผูกติดกับการเพิ่มเพดานหนี้ และในครั้งนี้ก็ไม่ควรจะแตกต่างกัน" นายบัคกล่าว
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
Executive Vice President.
RHB-OSK Securities (Thailand)PLC
RHB Banking Group