เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและทองคำวานนี้ (3) ปิดบวกพอสมควร หลังแผนโจมตีทางทหารต่อซีเรียของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับการหนุนหลังจากสมาชิกคนสำคัญของรีพับลิกัน ขณะที่ความกังวลต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าวก็เหนี่ยวรั้งให้วอลล์สตรีทขยับขึ้นในกรอบแคบๆ แม้มีแรงหนุนจากข้อมูลการผลิตของอเมริกาและจีน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 91 เซ็นต์ ปิดที่ 108.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 115.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 1.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันอังคาร (3) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับเสียงสนับสนนจากแกนนำพรรครีพับลิกัน 2 คนในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งจากนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานรัฐสภากับนายเอริค แคนเตอร์ ผู้นำเสียงข้างมากสภาผู้แทนราษฎร ต่อปฏิบัติการโจมตีทางทหารถล่มกองกำลังรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อตอบโต้กรณีที่ใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนในวันที่ 21 สิงหาคม
แม้ว่าการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งของแกนนำพรรครีพับลิกัน ไม่ได้หมายความว่าสภาคองเกรสจะให้ไฟเขียวแก่ โอบามา ต่อแผนโจมตีซีเรีย แต่มันก็เพิ่มความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นสำหรับการโหวตเห็นด้วยในรัฐสภา ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะมีการจัดลงมติในประเด็นนี้อย่างเร็วที่สุดสัปดาห์หน้า หลั้งจากสมาชิกสภากลับมาจากวันหยุดแล้ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (3) ขยับเล็กน้อย หลังได้ปัจจัยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของอเมริกา เข้ามาพยุงตลาดท่ามกลางความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่วอชิงตันจะใช้มาตรการทางทหารสั่งสอนซีเรีย
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 20.65 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,820.96 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.57 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,639.54 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 22.74 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,612.61 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในแดนบวกจากข้อมูลทางเศรษฐกิจอันสำคัญที่เผยให้เห็นว่าภาคการผลิตของประเทศขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนสิงหาคม สถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ (ไอเอสเอ็ม) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิตประจำเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นสู่ 44.7 จุด แตะระดับสูงสุดของปี 2013 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ปัจจัยนี้ประกอบกับปัญหาการประท้วงของคนงานเหมืองในแอฟริกาใต้และความตึงเครียดในซีเรีย รวมถึงข้อมูลการผลิตที่สดใสของจีนก็ส่งให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,412.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์