เอเยนซี - เอชเอสบีซี ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปี 56 คาดจากร้อยละ 8.2 เหลือร้อยละ 7.4 ระบุจีนมองยาวไม่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น หวังปฏิรูปฯ และรอเศรษฐกิจภาคเอกชนเป็นกำลังขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน
สื่อต่างประเทศรายงาน (20 มิ.ย.) ว่า ฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ แบงกิ้ง คอร์ป (เอชเอสบีซี) ได้ปรับลดคาดการณ์ การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปี 2556 และ 2557 ลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 7.4 พร้อมชี้ว่า ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ รัฐบาลจีนมีแนวโน้มจะใช้การปฏิรูปเพื่อปรับสมดุลเศรษฐกิจของประเทศ มากกว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบครั้งก่อน
รายงานฯ ของเอชเอสบีซี ระบุว่า บรรดาผู้นำจีน ต่างยอมรับและไม่กังวลกับภาวะชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนระยะสั้นกำลังเริ่มอ่อนแรง และมีแนวโน้มว่าจะใช้มาตรการปฏิรูป ควบคู่กับศักยภาพของภาคเอกชน ในการสร้างเศรษฐกิจจีนระยะกลางและระยะยาว แม้ว่า ในระยะสั้นนี้ จะมีผลเสียต่อเศรษฐกิจของจีนบ้าง
เอชเอสบีซี ได้คาดการณ์จากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2556 - 2557 น่าจะชะลอตัวลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 7.4 จนกว่ามาตรการปฏิรูปจะส่งผล ซึ่งทำให้เศรษฐกิจจีนสามารถกลับมาฟื้นตัวยั่งยืนได้ในปี 2558 นอกจากนี้ เอชเอสบีซี ยังระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อในช่วงขาลง มีผลต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และมีความเป็นไปได้ที่จีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ในปีนี้
เอชเอสบีซี ยังระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (พีเอ็มไอ) มาตรวัดความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ประจำเดือนมิถุนายน ได้ตกลงมาที่ 48.3 จุด ต่ำกว่าเดือน พ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 49.2 จุด และยังเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน (นับแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ต่างจากการสำรวจของรัฐบาลจีน ซึ่งเผยว่า พีเอ็มไอในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 50.8 เพิ่มจาก 50.6 ในเดือนเมษายน
ทั้งนี้ รายงานข่าวกล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกนี้ บรรดาบริษัทการเงินการลุงทุน ต่างแถลงพร้อมใจปรับลดคาดการณ์ ผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปี 2556 อาทิ บริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์เปอเรชั่น ระบุให้เหลือร้อยละ 7.7 จากที่เคยตั้งไว้ร้อยละ 7.9 ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ได้ปรับลดฯ จากร้อยละ 8.3 มาอยู่ที่ 7.7 ยูบีเอส ลดลงจากร้อยละ 8 มาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 และ ดอยซ์แบงก์ ปรับลดจากเดิมที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 8.2 เป็น 7.9
