“อาร์เอ็มเอกรุ๊ป” เร่งปั้นรายได้กลุ่มอาหารเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% ในอีก 5 ปี ลุยซื้อแฟรนไชส์เปิดในเอเซีย ล่าสุดคว้าไลเซ่นส์กาแฟดัง คอสต้าคอฟฟี่ จากอังกฤษ ปักหมุด ไทย กัมพูชา ลาว พร้อมแผนทุ่ม 500 ล. ผุดครบ 100 แห่ง
นายฌอง โบริส รูซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจส่วนภูมิภาค บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด ผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านกาแฟ คอสต้า คอฟฟี่ จากอังกฤษ ภายใต้บริษัท เอ็กซ์เพรส ฟู๊ด กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทางคอสต้าคอฟฟี่ที่อังกฤษต้องการที่จะขยายตลาดในเอเซียมากขึ้น ดังนั้นทางบริษัทฯจึงซื้อแฟรนไชส์คอสต้าคอฟฟี่เข้ามาลงทุน โดยได้รับสิทธิ์รวม 3 ประเทศคือ ไทย กัมพูชา และลาว มีสัญญานาน 15 ปี เริ่มปีนี้ ซึ่งจะเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ผลักดันให้สัดส่วนรายได้กลุ่มอาหารของบริษัทเพิ่มเป็น 30% ได้ภายใน 5 ปีจากนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น จากโครงสร้างธุรกิจของบริษัทแม่ที่มีมากกว่า 25 ปีแล้ว ที่มี 3 กลุ่มหลักคือ รถยนต์ อุปกรณ์ก่อสร้าง และอาหาร ซึ่งกลุ่มนี้เริ่มเพียง 8 ปีเท่านั้น
โดยคาดว่าในปีนี้กลุ่มอาหารของบริษัทจะมีรายได้รวมเติบโต 35% จากฐานรายได้รวมปีที่แล้ว ที่มีประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มจากปี 2554 มีประมาณ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ จากธุรกิจอาหารที่มีหลายแบรนด์กระจายการลงทุนในหลายประเทศคือ ไทยมีร้านคอสต้าคอฟฟี่ สิงคโปร์มีร้านซับเวย์และร้านคินลินเนย์ ส่วนที่กัมพูชามีร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนี ร้านสเวนเซ่นส์ ร้านแดรี่ควีน ร้านบาร์บีคิวชิกเก้นและร้านคอสต้าคอฟฟี่ ส่วนที่ประเทศลาวมีร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนี ร้านสเวนเซ่นส์ ร้านแดรี่ควีน และร้านคอสต้าคอฟฟี่ รวมมากกว่า 60 สาขา
สำหรบแผนธุรกิจของร้านคอสต้าคอฟฟี่นั้น วางแผนภายใน 5 ปีจากนี้จะเปิดในไทยให้ครบ 75 สาขา ซึ่งปัจจุบันเปิดบริการแล้ว 1 สาขาที่สยามพารากอนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และที่กัมพูชาจะเปิดครบ 25 สาขา ขณะนี้เปิดแล้ว 4 สาขา และเตรียมเปิดอีก 1 แห่งในปีนี้ โดยใช้งบลงทุน 2 ประเทศนี้รวม 5 ปีประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนที่ลาวยังไม่ได้ลงทุนร้านคอสต้าคอฟฟี่
ทั้งนี้สาขาที่สยามพารากอน ลงทุน 10 ล้านบาท พื้นที่ 105 ตารางเมตร เป็นแฟลกชิบสโตร์ และถือเป็นสาขาที่ 1,000 ของคอสต้าคอฟฟี่ที่อยู่นอกอังกฤษ เป็นร้านที่จับกลุ่มระดับพรีเมียม เมล็ดกาแฟนำเข้ามาจากอังกฤษ และวางแผนเปิดอีก 3 สาขาในปีนี้ ส่วนทำเลจะมีหลากหลายทั้งสแตนด์อโลน ในศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน หรือย่านชุมชน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่และทำเล เป็นหลัก ซึ่งหากสามารถเปิดสาขาได้ตามแผนที่วางไว้เร็วเมื่อไรก็จะยิ่งคืนทุนได้เร็วเท่านั้น
“ตลาดร้านคอฟฟี่เชนในไทยเติบโตสูงมาก แต่ก็ยอมรับว่ามีการแข่งขันที่สูงมากเช่นกัน เราไม่คิดว่าเข้ามาลงทุนช้าเกินไปในไทยตอนนี้ เพราะยังมีโอกาส ตอนนี้ที่ยุโรปเศรษบฐกิจไม่ค่อยดีบริษัทแม่ก็ยังขยายต่อนเนื่อง ส่วนที่เอเซียจะเป็นตลาดที่บริษัทแม่ขยายธุรกิจและให้ความสำคัญมากขึ้น ซึ่งเรามั่นใจแบรนด์คอสต้าคอฟฟี่อย่างมากที่จะเข้ามาสร้างความสำเร็จในไทยได้ ซึ่งคอสต้าคอฟฟี่ตอนนี้มีกระจายไปมากกว่า 2,500 สาขาใน 30 ประเทศแล้ว ทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง เอเซีย” นายฌองกล่าว