ทอท.คาดใช้เวลา 48 ชั่วโมงเคลียร์รันเวย์สุวรรณภูมิเปิดใช้ได้ก่อนเที่ยง 11 ก.ย. จัดสนามบินดอนเมือง-อู่ตะเภารองรับเที่ยวบิน ด้านการบินไทย ยืนยัน เยียวยาผู้โดยสารที่อยู่ในทีจี 679 เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
วันนี้ (9 ก.ย.) น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท. เปิดเผยถึง ความคืบหน้าล่าสุดกรณีเครื่องบินของ บริษัท การบินไทย แอร์บัส เอ330 -300 เที่ยวบินทีจี 679 กว่างโจว-สุวรรณภูมิ ไถลหลุดรันเวย์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลาประมาณ 23.30 ของวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ว่า ทางวิ่ง (รันเวย์) ฝั่งซ้ายของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับความเสียหายเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร ทำให้ขณะนี้เหลือทางวิ่งฝั่งซ้ายเพียง 2,000 เมตร ซึ่งสามารถรองรับเครื่องบินที่มีขนาดตั้งแต่ 737 ลงมา ที่ยังทำการขึ้น-ลงได้ตามปกติ
โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่จากกรมการบินพลเรือน (บพ.) และ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เริ่มดำเนินการกู้เครื่องบินของการบินไทยแล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หากสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องบินออกจากรันเวย์ได้ จะต้องใช้เวลาซ่อมแซมรันเวย์ดังกล่าวอีกประมาณ 5 ชั่วโมง จึงจะสามารถเปิดใช้งานได้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมง หรือ ก่อนเที่ยงของวันที่ 11 กันยายน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้า(ดีเลย์) เกือบทั้งระบบเฉลี่ยประมาณ 14 นาทีต่อลำ แต่ล่าสุดยังไม่มีเครื่องบินแจ้งที่จะขอเปลี่ยนไปลงที่สนามบินดอนเมืองแต่อย่างใด โดยขณะนี้รันเวย์ 19 ขวาสามารถใช้การได้ตามปกติ สำหรับเครื่องบินที่ไม่ต้องการดีเลย์ สามารถแจ้งลงเครื่องได้ที่สนามบินดอนเมือง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสายการบินและนักการบิน และ ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินเพิ่มเติมก็ได้เตรียมสนามบินอู่ตะเภาไว้รองรับให้บริการแล้ว
ด้านนายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นได้ ซึ่งจะแจ้งให้บริษัทแอร์บัส เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง โดยเครื่องบินที่เกิดเหตุมีผู้โดยสารในเที่ยวดังกล่าวจำนวน 288 คน ลูกเรือ 14 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 14 ราย โดยเช้าวันนี้ทางโรงพยาบาลได้อนุญาตให้กลับบ้านได้บางส่วน เหลือผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ จำนวน 6 ราย เป็นชาวจีน ไทย และซิมบับเว โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาเครื่องบินที่จะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิดีเลย์เฉลี่ยลำละ 14 นาที ส่วนเครื่องที่จะขึ้นบินในช่วงเช้าที่ผ่านมาดีเลย์เฉลี่ยลำละ 30 นาที และมีสายการบินบินเพื่อรอลงจอดดีเลย์ 35 ลำ และภาคพื้นอีก 45 ลำ
ส่วนสัมภาระของผู้โดยสารจะจัดส่งให้กับผู้โดยสารถึงที่พัก ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตรวจสอบระหว่างการจัดส่งด้วย อย่างไรก็ตาม การบินไทย จะติดตามดูแลเยียวยาผู้โดยสารทุกคนเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพราะเกรงว่าจะเกิดการเจ็บป่วยภายหลัง และถ้ามีค่าเสียหายใดๆ การบินไทยจะรับผิดชอบทั้งหมด
นายสรจักร กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการลงปกติ ล้อหลังล้อหน้าลงเรียบร้อยแล้ว แต่กัปตันรู้สึกว่ามีอะไรขัดข้องที่ฐานล้อและไถลออกทางด้านขวา เบื้องต้นคาดว่าเป็นล้อหน้า โดยจะต้องรอผลสอบสวนอีกครั้ง ส่วนประกายไฟที่เกิดยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากการที่ครูดไปกับพื้นหรือมีเศษวัสดุอะไรหลุดเข้าไปหรือไม่ ทั้งนี้เครื่องไม่ได้เกิดการลุกไหม้แต่เป็นเพียงประกายไฟเท่านั้น
สำหรับเครื่องบินลำดังกล่าว บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 288 คน และลูกเรือจำนวน 14 คน โดยมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยขณะอพยพออกจากเครื่องบิน เบื้องต้นมีจำนวน 13 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่การบินไทยได้ดูแลผู้โดยสารและเร่งนำส่งโรงพยาบาลเพื่อปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว