“เปเป้ยีนส์” แบรนด์ดังอังกฤษรุกเอเชียหนักขึ้น พร้อมสยายปีกตลาดเข้าไทย ชูไทยเป็นฮับอาเซียนและฐานผลิตสำคัญ ด้านโรบินสันผู้รับสิทธิ์วางแผนเพิ่มสาขาต่อเนื่อง พร้อมเจรจาขอสิทธิ์ประเทศอื่นเพิ่มในอาเซียน
นายบาร์ท เดนอล์ฟ บรุยนิล ผู้อำนวยการตลาดต่างประเทศ แบรนด์เปเป้ยีนส์ (PEPE JEANS) จากประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะรุกตลาดในทวีปเอเชียมากขึ้น ด้วยการขยายแฟลกชิบสโตร์เพิ่มมากขึ้น ส่งสินค้าคอลเลกชันใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกับผู้ทำตลาด ทั้งในประเทศที่มีอยู่แล้วเช่น อินเดียกว่า 200 สาขา ญี่ปุ่นหลายสาขา มาเลเซีย 5 สาขา และขยายใหม่เช่น ไทย อินโดนีเซียที่จะเริ่มปีหน้า ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลี ต่อไป
โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปีจากนี้จะทำให้สัดส่วนรายได้จากเอเชียเพิ่มเป็น 15% และรายได้รวมเพิ่มเป็นมากกว่า 1,000 ล้านยูโร จากปัจจุบันมีน้อยมากไม่ถึง 5% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มี 750 ล้านยูโร ซึ่งแบรนด์เปเป้ยีนส์ในยุโรปมียอดขายเป็นรองแค่แบรนด์ลีวายส์เท่านั้นเอง
ปัจจุบันเปเป้ยีนส์มีสาขาที่เป็นชอปที่เปิดอยู่แล้วทั่วโลกประมาณ 400 แห่ง และอีกกว่า 7,000 จุดขาย กระจายไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี สเปน เป็นต้น ซึ่งแผน 5 ปีจากนี้จะเปิดสโตร์อีก 150 แห่ง โดยเปิดในเอเชีย 50 แห่ง และอีก 100 แห่งอยู่ในยุโรป อเมริกา และอื่นๆ
ล่าสุดได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดไทย โดยแต่งตั้งให้ห้างสรรพสินค้าโรบินสันเป็นผู้รับสิทธิ์ทำตลาดรายเดียวในไทย รวมทั้งยังได้ใช้โรงงานในไทยที่รับจ้างผลิตแบบโออีเอ็มเป็นฐานผลิตยีนส์ที่สำคัญของเปเป้ยีนส์ในการส่งออกด้วย จากฐานผลิตที่มีในต่างประเทศ เช่น จีน อิตาลี ซึ่งแต่ละประเทศจะผลิตสินค้าที่แตกต่างกันไป
นายเจอร์ลาร์ด เมคเกิร์ก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาในไทยเพื่อสร้างการเติบโตเต็มที่ โดยล่าสุดลงทุน 20 ล้านบาทเปิดร้านแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในไทยและใหญ่สุดในอาเซียนที่เซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่ 160 ตารางเมตร และตั้งเป้าปีนี้จะเปิดอีกที่เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ และเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ ส่วนปีหน้าจะเปิดอีก 2 สโตร์ ส่วนโมเดลเคาน์เตอร์นั้นปัจจุบันมีแล้ว 9 แห่ง ปีหน้าจะเปิดอีก 9 แห่ง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับทางบริษัทแม่ของเปเป้ยีนส์ด้วยว่า จะให้ดูแลตลาดในภาคพื้นนี้เพิ่มขึ้นที่ใดบ้าง
สำหรับเปเป้ยีนส์เน้นจับกลุ่มลูกค้าคนไทย 60% ต่างชาติ 40% ระดับราคาจะใกล้เคียงกับที่จำหน่ายในอังกฤษ สัดส่วนสินค้าในร้านที่เซ็นทรัลเวิลด์ประกอบด้วย สินค้ายีนส์ผู้ชาย 59% ยีนส์ผู้หญิง 38% และแอ็กเซสซอรี 3% ราคาเริ่มที่ 990-3,990 บาท
นายเจอร์ลาร์ดกล่าวว่า การทำตลาดเปเป้ยีนส์ของโรบินสันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของการเป็นผู้นำตลาดยีนส์ได้มากยิ่งขึ้น จากขณะนี้มีแชร์ตลาดยีนส์ประมาณ 32% ในช่องทางดีพาร์ตเมนต์สโตร์แล้ว ซึ่งตลาดยีนส์มีการเติบโตต่อเนื่อง 12-15% ต่อปี ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร และพฤติกรรมการซื้อยีนส์ของคนไทยจากเดิม 2,000-3,000 บาทต่อบิลเพิ่มเป็น 5,000-6,000 บาทต่อบิล ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายเปเป้ยีนส์จากสโตร์ที่เซ็นทรัลเวิลด์ไว้ที่ 5 ล้านบาทต่อเดือน และขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ 10% โดยใช้งบตลาด 12 ล้านบาทสร้างแบรนด์เปเป้ยีนส์และจัดแคมเปญต่างๆ เพื่อสร้างยอดขาย