“แม็คยีนส์” แตกไลน์ “Mc Me” เป็นของขวัญวันแม่ มุ่งกลุ่มเป้าหมายวัย 40 ปีตอบโจทย์คนรักยีนส์ ตั้งเป้าหมายการขายปีนี้เฉพาะแบรนด์ใหม่ไว้ที่ 50 ล้านบาท
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายแม็คยีนส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้แตกไลน์ยีนส์แบรนด์ใหม่ชื่อว่า “Mc Me” โดยได้ทดลองออกวางจำหน่ายผ่านร้านค้าของแม็คและจุดขายทั่วประเทศประมาณ 100 แห่งเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่วัย 40 ปีที่ต้องการใส่ยีนส์แต่ยังไม่มีสินค้าที่ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ในตลาด โดยราคาของสินค้า แม็คมีจะมีราคาประมาณ 2,200 บาท
การแตกไลน์แบรนด์แม็คมีครั้งนี้จะทำให้แม็คกรุ๊ปมีสินค้ายีนส์ที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกระดับอายุ คือแม็คมินิสำหรับเด็กผู้ชายอายุ 6-12 ปี แม็คเลดี้สำหรับผู้หญิงอายุ 15-25 ปี แม็คยีนส์อายุ 20-40 ปี และแม็คมีสำหรับผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป
เนื่องจากการบริโภคยีนส์ในปัจจุบันแทบจะไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ สามารถใส่ได้ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงคนมีอายุ วันทำงาน และวันสบายๆ แต่เนื่องจากสรีระของผู้สวมใส่ในแต่ละวัยต่างกัน บริษัทจึงต้องการผลิตยีนส์ที่เหมาะกับรูปร่างในแต่ละวัยด้วยช่างที่มีความชำนาญและประสบการณ์เรื่องฟิตติ้งมากกว่า 40 ปี
“กระแสความแรงของตลาดยีนส์ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคนมีอายุมีการหันกลับมาใส่ยีนส์มากขึ้น ไม่ว่ามาจากผลสำรวจหรือการสอบถาม ณ จุดขาย คนกลุ่มนี้มาหาซื้อสินค้ายีนส์มากขึ้น แม้ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เลิกใส่ยีนส์แล้ว แต่ต้องการกลับมาใส่ยีนส์อีกหากมีสินค้าที่เหมาะกับรูปร่างตนเองและใส่ได้สวยแม้ในสรีระปัจจุบัน” นางสาวสุณีกล่าว
นางสาวสุณีกล่าวต่อว่า จากการสำรวจพบว่าเฉลี่ยคนมีการครอบครองยีนส์ในตู้เสื้อผ้ามากขึ้น คนซื้อยีนส์มากขึ้นจาก 6 ตัวต่อปีเป็น 8 ตัวต่อปี และเฉลี่ยแล้วคนใส่ยีนส์จะมียีนส์ในตู้เสื้อผ้าประมาณ 7-10 ตัว
บริษัทอยู่ระหว่างการหาพรีเซ็นเตอร์ Mc Me เพื่อทำการโปรโมตสินค้านี้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างให้แม็คมีเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แม็คกรุ๊ปอีกทางหนึ่งในอนาคต คาดการณ์ว่าในปีแรกนี้จะมีรายได้จากแม็คมีประมาณ 50 ล้านบาท และเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ยอดขายแม็คกรุ๊ปมีการเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20%
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายแม็คยีนส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้แตกไลน์ยีนส์แบรนด์ใหม่ชื่อว่า “Mc Me” โดยได้ทดลองออกวางจำหน่ายผ่านร้านค้าของแม็คและจุดขายทั่วประเทศประมาณ 100 แห่งเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่วัย 40 ปีที่ต้องการใส่ยีนส์แต่ยังไม่มีสินค้าที่ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ในตลาด โดยราคาของสินค้า แม็คมีจะมีราคาประมาณ 2,200 บาท
การแตกไลน์แบรนด์แม็คมีครั้งนี้จะทำให้แม็คกรุ๊ปมีสินค้ายีนส์ที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกระดับอายุ คือแม็คมินิสำหรับเด็กผู้ชายอายุ 6-12 ปี แม็คเลดี้สำหรับผู้หญิงอายุ 15-25 ปี แม็คยีนส์อายุ 20-40 ปี และแม็คมีสำหรับผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป
เนื่องจากการบริโภคยีนส์ในปัจจุบันแทบจะไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ สามารถใส่ได้ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงคนมีอายุ วันทำงาน และวันสบายๆ แต่เนื่องจากสรีระของผู้สวมใส่ในแต่ละวัยต่างกัน บริษัทจึงต้องการผลิตยีนส์ที่เหมาะกับรูปร่างในแต่ละวัยด้วยช่างที่มีความชำนาญและประสบการณ์เรื่องฟิตติ้งมากกว่า 40 ปี
“กระแสความแรงของตลาดยีนส์ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคนมีอายุมีการหันกลับมาใส่ยีนส์มากขึ้น ไม่ว่ามาจากผลสำรวจหรือการสอบถาม ณ จุดขาย คนกลุ่มนี้มาหาซื้อสินค้ายีนส์มากขึ้น แม้ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เลิกใส่ยีนส์แล้ว แต่ต้องการกลับมาใส่ยีนส์อีกหากมีสินค้าที่เหมาะกับรูปร่างตนเองและใส่ได้สวยแม้ในสรีระปัจจุบัน” นางสาวสุณีกล่าว
นางสาวสุณีกล่าวต่อว่า จากการสำรวจพบว่าเฉลี่ยคนมีการครอบครองยีนส์ในตู้เสื้อผ้ามากขึ้น คนซื้อยีนส์มากขึ้นจาก 6 ตัวต่อปีเป็น 8 ตัวต่อปี และเฉลี่ยแล้วคนใส่ยีนส์จะมียีนส์ในตู้เสื้อผ้าประมาณ 7-10 ตัว
บริษัทอยู่ระหว่างการหาพรีเซ็นเตอร์ Mc Me เพื่อทำการโปรโมตสินค้านี้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างให้แม็คมีเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แม็คกรุ๊ปอีกทางหนึ่งในอนาคต คาดการณ์ว่าในปีแรกนี้จะมีรายได้จากแม็คมีประมาณ 50 ล้านบาท และเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ยอดขายแม็คกรุ๊ปมีการเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20%
