ASTVผู้จัดการรายวัน - “ไทยชูรส” แย้มแผนลุยรับเออีซี พร้อมผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจกลุ่มอาหาร ล่าสุดใส่เกียร์บุกพม่าครั้งใหม่ หวังยอดขายต่างประเทศร่วม 250 ล้านบาท ส่งภาพรวมยอดขายปีนี้ทะลุ 1,320 ล้านบาท เติบโต 10%
นายชัยชาญ อรุณสมบัติ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยชูรส จำกัด เปิดเผยว่า ไทยชูรสเป็นธุรกิจอาหารที่ทำรายได้ให้กลุ่มซอโสตกุลราว 20% เมื่อเทียบกับรายได้รวมจากธุรกิจรวมกัน โดยตามแผนการดำเนินงานของไทยชูรสนั้นจะไม่เน้นเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ แต่จะมองเรื่องของการจับมือกับพันธมิตรขยายตลาดรับเออีซีมากกว่า
โดยขณะนี้มีสินค้ากลุ่มอาหาร อย่างเครื่องปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลายประเทศทั้งจากเอเชียด้วยกัน เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 10 รายสนใจให้ทางไทยชูรสเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของไทยและของไทยชูรสในเรื่องการกระจายสินค้า หวังสร้างโอกาสทางการค้าเมื่อเข้าสู่เออีซี
ส่วนแผนการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่นั้น ทางบริษัทมีความพร้อมอยู่แล้วที่จะรุกในกลุ่มเครื่องปรุงรส เพียงแต่ต้องดูสถานการณ์ในตลาดก่อนเนื่องจากมีการแข่งขันสูงจากเจ้าตลาด การเปิดตัวในช่วงนี้อาจจะต้องลงทุนสูง แต่ในปีหน้าอาจจะได้เห็นสินค้าใหม่จากไทยชูรส โดยอาจจะเริ่มจากการทดลองจำหน่ายไปพร้อมกับสินค้าผงชูรสที่จำหน่ายไปกับทางร้านค้ายี่ปั๊วซาปั๊วที่มีเป็นหลักหมื่นราย
ล่าสุดปีนี้พร้อมใช้งบการตลาดกว่า 110 ล้านบาทสำหรับเปิดตัวแคมเปญ “คนไทยใจชูรส” และเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่รัก “หนูแหม่มและบ๊อบบี้” ที่มาพร้อมกับภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เพื่อหวังปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัย และขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนเมืองและทุกช่วงอายุได้มากขึ้น มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้รวมสิ้นปีนี้เติบโต 10% หรือกว่า 1,320 ล้านบาท มาจากในประเทศ 85% และต่างประเทศ 15%
อย่างไรก็ตาม แผนการรุกตลาดต่างประเทศนั้น ปีนี้จะกลับไปทำตลาดในพม่าอย่างจริงจังอีกครั้ง จาก 20 ปีก่อนบริษัทเคยเข้าไปเปิดสำนักงานและทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ แต่ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาพม่ามีกฏห้ามนำเข้าสินค้าไทย 14 ชนิดซึ่งรวมถึงผงชูรสด้วย จึงทำให้การทำตลาดในพม่าชะลอลงไป เน้นขายผ่านทางตลาดชายแดนไปพม่าเท่านั้น แต่ปีนี้ทางพม่าได้ยกเลิกกฏดังกล่าว ทำให้บริษัทพร้อมเข้าไปรุกทำตลาดอย่างจริงจังอีกครั้ง เบื้องต้นใช้งบการตลาดราว 3 ล้านบาท พร้อมหาดิสทริบิวเตอร์ร่วมจำหน่าย มั่นใจว่ายอดขายในพม่าจะโตขึ้นราว 20% จากปีก่อนมีรายได้กว่า 200 ล้านบาท
“พม่าเป็นตลาดหลักของการส่งออก ที่เหลือคือ ลาว พม่า และกัมพูชา เนื่องจาก 4 ประเทศนี้มีพฤติกรรมการบริโภคคล้ายคนไทย โดยพม่าเป็นตลาดที่บริโภคผงชูรสมากสุด และไทยชูรสเป็นอันดับ 2 ของตลาดในพม่า ส่วนอีก 3 ประเทศเป็นอันดับ 3 ซึ่งทางบริษัทพร้อมที่จะเข้าไปทำตลาดเช่นกัน โดยกำลังมองหาตัวแทนจำหน่าย ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นปีบริษัทจะมีรายได้จากต่างประเทศรวมแล้วน่าจะอยู่ที่ 250 ล้านบาท”
จากปัจจุบันตลาดรวมผงชูรสเติบโตปีละ 2-3% มีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดครัวเรือน 65% เติบโตทรงตัว และตลาดอุตสาหกรรม 35% เติบโต 10% ซึ่งไทยชูรสอยู่ในอันดับ 2 ของตลาดครัวเรือน มีแชร์อยู่ราว 20% ห่างจากอายิโนะโมะโต๊ะ ที่เป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งกว่า 65-70% ส่วนในตลาดอุตสาหกรรมนั้น ไทยชูรสอยู่ในอันดับ 3 รองจากราชาชูรส และอายิโนะตากะระ ที่มีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 35-40% เท่าๆ กัน