เกาะกระแส
00 วันก่อนเริ่มสงสัยกับข่าวที่ "เสี่ยโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลังหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ยิ่งลีกษณ์ ชินวัตร ออกมาโวยวายธนาคารโลกที่ระบุว่าเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในความเสี่ยง โดยเถียงคอเป็นเอ็นตามฟอร์มว่าไม่จริง ทำนองว่ารัฐบาลกำลังกระตุ้นเพิ่มจีดีพีอย่างได้ผล ทุกอย่างมีเสถียรภาพ ถัดมา สมชัย สัจจพงษ์ผอ.สศค.คนเดียวกับที่เคยสวน "มูดีส์"ว่า"ไม่ใช่มืออาชีพ"นั่นแหละแต่คราวนี่มาอารมณ์ใหม่เผยว่า ไอเอ็มเอฟ กำลังจับตาหนี้ภาคครัวเรือนและโครงการจำนำข้าวที่ขาดทุนบักโกรก และลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษกิจของไทยว่าต่ำกว่าร้อยละ 5 แน่นอน นี่ก็คือเป็นสัญญาณข่าวร้ายที่กำลังมาเยือนไทยเป็นรายวัน หลังจากก่อนหน้านี้ทางมูดีส์เคยส่งสัญญาณเตือนออกมาก่อนแล้วว่าอาจจะลดเครดิตไทยในปลายปีนี้ ตอนแรกก็ฟังหูไว้หู แต่ล่าสุดเมื่อได้ยินจากปากของบิ๊กสหพัฒน์ฯอย่าง บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ที่เป็นขาใหญ่ในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสารพัด โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอกอะไรพวกนี้บอกว่าการเติบโตของเครือสหพัฒน์ฯต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยบอกว่าเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย ชาวบ้านไม่มีกำลังซื้อ
00 นายห้างจากสหพัฒน์ฯคนดังกล่าวสะท้อนออกมาถือว่าเป็นจริงและเชื่อถือได้แน่นอน เพราะขนาดถึงขั้น "บะหมี่มาม่า"ยังยอดขายตก ก็ต้องบอกว่า"หนักหนาสาหัส"แล้วจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้หากจำได้เมื่อเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 สินค้าพวกนี้จะขายดีสวนทางกับสินค้าอื่น หากเป็นแบบนี้ก็เตรียมรับมือแต่เนิ่นเนิ่นๆไว้ให้ดีแล้วกัน ตอนแรกยังนึกไม่ออกว่า"นโยบายรถคนแรก"จะส่งผลกระทบอย่างไร ค่าแรง 300 บาทน่าจะดีเพราะมีรายได้เพิ่ม รถคันแรกก็น่ากระตุ้นเศรษฐกิจ"หมุนไปหลายรอบ" แต่กลายเป็นว่าคนที่ซื้อรถส่วนใหญ่จะมีเงินเดือนไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือหมื่นเศษๆ เมื่อบวกกับค่างวด ค่าน้ำมัน หรือค่าจอด เพราะส่วนใหญ่ยังเช่าห้องพักอยู่ และยังต้องมีค่าใช้จ่ายประจำวันอีกมันก็ไม่มีเงินเหลือ ทำให้เป็นคำตอบว่าทำไมเวลานี้สินค้าในห้างยอดขายลดฮวบ เพราะคนออกจากบ้าน ซื้อสินค้าน้อยลง ส่วนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นมันก็ไม่ทำให้ให้รายได้เพิ่มจริง เพราะสินค้าแพง นายจ้างลดสวัสดิการลง แถมยังเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างอีก นี่แหละน้า "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ คนไทยเจ๊ง"
00 ในที่สุดก็ยอมเปิดเผยตัวเลขออกมาแล้วว่าจำนำข้าวทำเจ๊งไป 1.36 แสนล้านบาท แต่ขอบอกว่าเป็นแค่ฤดูกาลเดียวคือ 54/55 ไม่ใช่รวม 55/56 นั่นก็แสดงว่าถ้ารวมทั้งสองฤดูกาลมันก็ต้องสองแสนล้านขึ้นอยู่ดี แต่ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนนักโฆษณาชวนเชื่อคนใหม่จาก บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์มาเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ วราเทพ รัตนากร ก็ไม่มีความหมายแล้ว เพราะคนไม่เชื่อ เพราะยิ่งชี้แจงมันก็เหมือนการบิดเบือน ปิดบังอำพรางอยู่ดี มิหนำซ้ำล่าสุดยังมีการลดวงเงินจำนำเหลือตันละ 1.1-1.3 หมื่นบาท มันก็ประจานให้เห็นถึงความล้มเหลว และแก้ตัวเอาตัวรอดไผวันๆเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ทั้งนายกฯย่งลักษณ์ลงมาทุกคนพยายามบิดเบือนทำนองว่าขาดทุนไม่เป็นไรเพราะชาวนาได้ประโยชน์ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ไปลดราคาจำนำข้าวนั่นก็เท่ากับว่าไป"ลดผลประโยชน์ของชาวนา"นะซี
00 การจับกุมผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดที่ปากซอยรามคำแหง 43/1 โดยจับกุมได้ที่นราธิวาส มันก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับก่อการร้ายชายแดนใต้ที่เริ่มขยายวงมาถึงกรุงเทพฯ น่าสังเกตก็คือก่อนหน้านี้ ทั้ง เฉลิม อยู่บำรุง และตำรวจต่างรีบฟันธงว่ามีสาเหตุมาจากความขัดแย้งของพวกแม่ค้าแถวนั้น แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ถือว่าน่ากลัว และที่สำคัญนี่คืออีกความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กับการแก้ปัญหาที่นอกจากทำให้ความรุนแรงลดลงไปได้แล้ว ทุกอย่างกลายเป็นตรงกันข้าม อีกทั้งไปเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นมาสองสามรอบแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์นอกจากไปเพิ่มความสำคัญให้กลุ่มโจร อ้างว่ารับปากจะลดความรุนแรงช่วงถือศีลอด แล้วแนวโน้มเป็นไงละ เห็นมีแต่ทหาร ตำรวจตายเจ็บรายวันเป็นใบไม้ร่วง ทุด !!