xs
xsm
sm
md
lg

KTAM เปิดเทรด EFOOD บวกทันที 1.18%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


KTAM จับมือ ASP เปิดขายกองทุนเปิด KTAM SET Food and Beverage ETF Tracker EFOOD  ผลตอบรับดีเกินคาด เตรียมเปิดอีก 2 กองทุนภายในปีนี้

รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  บลจ.กรุงไทย เปิดให้ทำการซื้อขายกองทุนเปิด KTAM SET Food and Beverage ETF Tracker ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “EFOOD” อ้างอิงกับ ดัชนีหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยทันทีที่เปิดเทรดราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่ 5.13 บาท จากราคาขาย IPO ที่ตั้งอยู่ที่  5.07 บาท คิดเป็น 1.18%

น.ส.นฤมล อาจอำนวยวิภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP เปิดเผยถึงการร่วมมือกันของ ASP ในฐานะผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน กับโบรกเกอร์ชั้นนำของเมืองไทยอีก 12 แห่ง ในฐานะผู้ขายหน่วยลงทุนให้แก่กองทุนเปิด KTAM SET Food and Beverage ETF Tracker หรือ EFOOD ว่า ในครั้งนี้ EFOOD เป็นกองทุน ETF ที่มีลักษณะเป็นกองทุนรวมเปิดที่สามารถซื้อขายได้บนกระดานตลาดหลักทรัพย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม SET Food and Beverage Sector Index นอกเหนือจากกองทุนเปิด ENY ที่เปิดตัวไปแล้วนั้น

ขณะเดียวกัน ภายในปีนี้ ทาง ASP ยังได้เตรียมเปิดอีก 2 กองทุน คือ EICT กองทุนเปิดด้านโทรคมนาคม เพราะทาง ASP ประเมินว่าจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารที่รุดหน้า และความพร้อมของผู้ให้บริการค่ายต่างๆที่จะเปิดให้บริการ 3G เต็มรูปแบบในปีนี้ และกองทุน E-Commerce ที่จะเปิดภายในปีนี้ด้วย เนื่องจากการปรับตัวของค่าแรง 300 บาท ทำให้ภาคธุรกิจมีอัตราเติบโตมากขึ้น มีผลกำไรที่ดีขึ้น ตลอดถึงมาตรการปรับลดภาษีนิติบุคคลจากเดิมที่ 23% ลงมาอยู่ที่ 20% จะมีนักลงทุนให้ความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มมากขึ้น

นางเกษรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า KTAM นับเป็นผู้ที่ออก ETF มากที่สุด โดยมีดัชนีอ้างอิงทั้งหุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ และทองคำ โดยปีนี้ได้ออก ETF ที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดธุรกิจ (Sector ETF) มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการลงทุนในแต่ละกลุ่มธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนตามภาวะเศรษฐกิจที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้ลงทุนจึงสามารถใช้ ETF เป็นเครื่องมือในการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อ้างอิงต่างๆ เพื่อบริหารพอร์ตได้

สำหรับ ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (SET Food and Beverage Sector Index) มีสัดส่วนประมาณ 5% ของมูลค่าตลาดรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือคิดเป็นประมาณ 700,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 26 หลักทรัพย์ จากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสด อาหารแปรรูป ผลไม้กระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำมันพืช และเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแบรนด์ดังต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักทั้งใน และต่างประเทศ

โดยในปี 2555 ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.36% จากปลายปี 2554 มีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 2.34% และในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2556 ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.67% มีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 2.35%  แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง แต่บริษัทสามารถขายหน่วยลงทุนกองทุน EFOOD ได้ทั้งสิ้นประมาณ 100 ล้านบาท และมีผู้จองซื้อกว่า 500 ราย ซึ่งในช่วงการเสนอขายหน่วยลงทุน ที่ผ่านมาโดยมีราคาเสนอขายหน่วยลงทุนหน่วยละ 5.0741 บาท

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา นักลงทุนหุ้นไทยมีการซื้อขายกันคึกคักมาก สูงถึง 62,000 ล้านบาท/ัน ในระยะยาวคาดว่า บริษัทหลักทรัพย์ยังขยายตัวดีอยู่ เนื่องจากจะมีนักลงทุนรายใหม่ๆ เพิ่มเข้ามามากขึ้น บริษัทที่มีผลกำไรดีขึ้นก็จะจ่ายปันผลเพิ่มมากขึ้น

ส่วนภาวะความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เกิดจากผลกระทบการผิดชำระหนี้ของไซปรัส และข่าวลือในเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้อุปสงค์ (demand) ของนักลงทุนมีมากในเวลาที่จำกัด ทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ไม่มั่นใจรีบตัดสินใจขาย

ขณะที่ความตึงเครียดจากสถานการณ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ในระยะนี้ ยังคงต้องใช้ระยะเวลาประเมินสักพัก ส่วนมาตรการในไตรมาสที่ 2 นั้น จะมีวันหยุดเทศกาลเยอะ นักลงทุนอาจซื้อขายได้น้อยลง
กำลังโหลดความคิดเห็น