บลจ.กรุงไทย เปิดตัว 2 กองทุน ETF ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอาหารมองหุ้นกลุ่มพลังงานปีนี้เติบโตได้ 20% ขณะที่กลุ่มอาหารเติบโตได้ 15-20% ชูโอกาสรับผลตอบแทนสูงและการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บลจ.กรุงไทย เตรียมเปิดขายกองทุนรวมอีทีเอฟ 2 กองทุน ในเดือนมีนาคมนี้ คือกองทุนเปิด KTAM SET Energy ETF Tracker (ENY) เป็นกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนีหมดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และจะออกกองทุนเปิด KTAM SET Food and Berverage (EFOOD) เป็นกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนีหมดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
โดยปัจจุบันหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค มีมูลค่าตลาดสูงสุดในดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คิดเป็นสัดส่วน 20.52% (ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2555) ซึ่งหากพิจารณาในด้านราคาแล้วพบว่าหุ้นกลุ่มพลังงานค่อนข้างจะปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดพอสมควรในช่วง 2 ปีผ่านมา ซึ่งทำให้ระดับราคามีความน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ผลประกอบการอยู่ที่ประมาณ 12% ในปีนี้ จุดเด่นทั้งกองทุน ENY และ EFOOD คือ มีโอกาสรับผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามดัชนีอ้างอิง และกองทุนมีโนยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี
น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานว่า ปัจจุบันกลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยกระทบจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ทั้งน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ อัตราการจ้างงาน รวมถึงประเด็นทางการเมืองโลก ซึ่งมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้มีการกระตุ้นทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในช่วงสั้นๆ จะมีการใช้พลังงานที่มากขึ้น
ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานในปีนี้ ถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ในกลุ่มปิโตรเลียมของหลายบริษัทมีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทำให้ราคาน้ำมันจะไม่ต่ำกว่าในระดับปีที่ผ่านมา ด้านถ่านหินยังมีมุมมองในเชิงบวก มีความต้องการในเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับกลุ่มปิโตรเคมี ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นใหม่ในปีนี้จากความต้องการที่มากขึ้น รวมถึงในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ในปีนี้ราคาจะดีดตัวเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น ในปีนี้มองว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานจะมีการปรับตัวขึ้นประมาณ 20% และมีอัตราการจ่ายปันผลในระดับ 5%
นายธิปธวัช สุวรรณธำรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจอาหารในปีนี้ยังมีความน่าสนใจ ทั้งในส่วนของธุรกิจขั้นต้น คือ พวกสินค้าเกษตร เนื้อสัตว์ สัตว์น้ำ และขั้นปลาย คือ กลุ่มร้านอาหารและอาหารสำเร็จรูป ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนั้นรับปัจจัยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไปตามเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ในปีนี้ ทั้งสหรัฐฯ และกลุ่มยุโรปมีการฟื้นตัวขึ้น และการเกิด AEC เป็นปัจจัยกระตุ้นต่อการเติบโตของกลุ่มอาหาร ขณะที่ปัจจัยกระทบคงเป็นเรื่องของราคาที่อาจจะมีความผันผวนจากปัจจัยการผลิต แต่แนวโน้มในปีนี้มองว่ากลุ่มอาหารมีการเติบโตขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เป็นปัจจัยกระตุ้น ดังนั้น หุ้นในกลุ่มอาหารปีนี้จึงมองว่าจะมีการเติบโตที่ระดับ 15-20% และมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ประมาณ 2.5-4.5%
นายชัชพล สีวลีพันธ์ ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด 2 บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โดยรวมแล้วในปีนี้กลุ่มธุรกิจพลังงานและอาหารยังมีผลประกอบการที่ดีและให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยในกองทุน ENY จะลงทุนในหุ้นพลังงานที่อยู่ในดัชนี SET100 เป็นหลัก ตั้งเป้ายอดขายในช่วง IPO นี้ 3000 ล้านบาท เปิดขาย IPO ระหว่างวันที่ 1-8 มีนาคม 2556 ส่วนกองทุนเปิด KTAM SET Food and Berverage (EFOOD) เป็นกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนีหมดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จะเปิดขาย IPO ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2556