บลจ.กรุงไทย ตั้งเป้ากองสำรองเลี้ยงชีพเติบโต 3,000 ล้านบาท เน้นรักษาฐานลูกค้ารัฐวิสาหกิจ พร้อมขยายฐายลูกค้าในกลุ่มบริษัทเอกชน พร้อมให้ห้ความรู้กับสมาชิกผ่านทางเลือกการลงทุนแบบ Employee’s Choices
น.ส.วรา แสงรุจิ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า ปี 2555 ที่ผ่านมาธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทฯ มีสินทรัพย์สุทธิทั้งสิ้น 73,507.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2554 ประมาณ 0.21% มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 4 ของอุตสาหกรรม โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นรัฐวิสาหกิจ และในปีนี้บริษัทคงเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ รวมทั้งขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะเน้นที่เป็นบริษัทเอกชนมากขึ้น และตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มสินทรัพย์สุทธิขึ้นไปที่ระดับ 76,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท ในปีนี้ ถือว่าไม่ง่ายเช่นกัน เพราะฐานลูกค้ารัฐวิสาหกิจที่บริษัทมีอยู่เดิมแนวโน้มจะมีการจ้างให้หลาย บลจ.มาร่วมบริหารกองทุนมากขึ้นซึ่งจะทำให้เงินในส่วนนี้ของบริษัทหายไปบางส่วนแล้วเช่นกัน แต่ฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิมทั้งหมดทั้งภาครัฐและเอกชนบริษัทจะรักษาเอาไว้ให้ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ผลงานบริหารของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาในทุกนโยบายการลงทุนก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีเทียบวัดทุกกองทุน กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.7% ต่อปี ส่วนกองทุนผสมให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.0% กว่า ในเรื่องของผลตอบแทนในการบริหารกองทุนก็จะเป็นจุดแข็งของบริษัทที่ใช้แข่งขันได้และจะใช้ทำตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับ ในปีนี้บริษัทฯ คงทำงานร่วมกับธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นแบงก์แม่ให้ใกล้ชิดขึ้นเพราะฐานลูกค้าสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยก็มีเป็นจำนวนมากหากบริษัทไหนที่สนใจจะจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทก็พร้อมจะไปเสนอบริการให้รวมทั้งโปรดักต์อื่นๆ ของแบงก์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้ามากขึ้นด้วย ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ประมาณ 5 แสนราย แต่มีที่ทำกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแค่ประมาณ 1.2 หมื่นราย เท่านั้น ดังนั้นในแง่โอกาสของการเติบโตยังมีอีกมาก บริษัทจึงได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ให้แข่งขันได้ทั้งแง่ของผลการดำเนินงานกองทุนตลอดจนบริการต่างๆ กับสมาชิก ทีมการตลาดต้องพร้อมดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพให้ความรู้ความเข้าใจกับทั้งคณะกรรมการกองทุนรวมถึงสมาชิกกองทุน นับตั้งแต่เริ่มต้นทำงานเลยเพื่อให้สมาชิกสามารถวางแผนการลงทุนเพื่อตอบเป้าหมายเกษียณของตัวเองได้อย่างเหมาะสม
“บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยังไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของบริษัทฯ ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากบริษัทเอกชนทั่วไปที่บริษัทจะแนะนำให้เข้ามาใช้บริการกองทุนร่วมทุน (Pooled Fund) ของบริษัทที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน”น.ส.สวรา กล่าว
น.ส.หัสวรา ยังกล่าวว่า ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทเน้นการบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ ให้ความรู้กับสมาชิกเพื่อให้ออกแบบการลงทุนของตัวเองได้ตามต้องการโดยผ่านทางเลือกการลงทุน (Employee’s Choices) ซึ่งตรงนี้ขึ้นกับความพร้อมของบริษัทและสมาชิกที่สนใจจะทำ หากพร้อมบริษัทก็มีระบบไว้รองรับอยู่แล้วที่สามารถจะทำได้ และตั้งแต่ต้นปีมา 56 มานี้ บริษัทได้ทำระบบทะเบียนสมาชิกเองแล้วเพื่อที่จะทำให้สมาชิกสามารถจัดสรรรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงแรกนี้คงเป็นการทำเพื่อตอบโจทย์ให้กับบริษัทก่อนเป็นเป้าหมายแรกแต่ในอนาคตหากมี บลจ.ไหนสนใจที่จะให้บริษัททำระบบทะเบียนสมาชิกให้ก็คงจะมีโอกาสทำได้ในอนาคตเช่นเดียวกัน
