“ยรรยง” ถกเพิ่มความร่วมมือปากีสถานทันที หลังเซ็นตั้ง JTC เน้นขยายความร่วมมือนำร่อง 4 กลุ่ม อัญมณี ฮาลาล ประมง และการเกษตร พร้อมดันตั้งสำนักงานทูตพาณิชย์ช่วยธุรกิจไทยทำตลาด
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยและปากีสถานได้ลงนามจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) โดยมีนายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายเป็นสักขีพยาน และได้มีการประชุม JTC ครั้งแรกทันที โดยได้มีการหารือเพื่อเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเพิ่มความร่วมมือในสาขานำร่อง 4 กลุ่ม ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารฮาลาล การประมง และเทคโนโลยีการเกษตร
สำหรับสาขาอัญมณีและเครื่องประดับจะร่วมมือกันในการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยไทยจะนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพดีจากปากีสถาน เช่น ทับทิบ แซปไฟร์ มรกต โกเมน และควอตซ์ เป็นต้น และจะช่วยปากีสถานในด้านการแปรรูปอัญมณีที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ
ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ไทยจะร่วมมือในการพัฒนาการผลิตและการตลาดอาหารฮาลาลให้เป็นมาตรฐานสากลเพื่อขยายตลาดไปยังปากีสถาน และกลุ่มประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางและเอเชียกลาง และจะขยายการส่งออกเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตอาหารฮาลาลไปยังปากีสถาน ซึ่งในปี 2555 ที่ผ่านมาไทยส่งออกเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมไปปากีสถานมีมูลค่า 73 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านการประมง ไทยมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการถนอมอาหาร จึงมีโอกาสในการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานแปรรูปและแช่แข็งสินค้าประมง เพราะปากีสถานเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ โดยในปี 2555 ไทยนำเข้าสินค้าในส่วนของประมงเป็นมูลค่า 28 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนด้านเทคโนโลยีการเกษตร ไทยยินดีให้ความร่วมมือกับปากีสถานในการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรในด้านการปลูกฝ้ายและผลไม้เมืองร้อน เนื่องจากไทยมีเทคโนโลยีทางด้านการเกษตรที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้สินค้าเกษตรที่สำคัญของปากีสถาน
“ไทยให้ความสำคัญต่อตลาดปากีสถานในฐานะเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการตั้งสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครการาจี เมืองที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจไทยในการขยายการค้าและการลงทุนในปากีสถาน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ” นายยรรยงกล่าว
ปากีสถานเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ เป็นตลาดใหม่ที่น่าจับตาในแง่การค้าการลงทุนของไทย เป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีประชากรถึง 180 ล้านคน และเป็นประตูการค้าไปสู่ภูมิภาคเอเชียกลาง ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 300 ล้านคน โดยการค้าไทย-ปากีสถานครึ่งปี 2556 มีมูลค่า 563.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.2% โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 446.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
