- ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนก.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือนก่อน และ 3% จากปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเดือนที่ 3 และเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกอุตสาหกรรมทั้งภาคบริการ การผลิต และการก่อสร้าง โดยอากาศที่ร้อนกว่าปกติเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดค้าปลีกปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยอดขายอาหาร
- ดัชนี CPI ของสหรัฐในเดือนก.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อน จากราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น 1% และราคาอาหารเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน(ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน)เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อน ทั้งนี้ รายงานของก.แรงงานชี้ว่า กำลังซื้อภาคครัวเรือนยังได้รับแรงกดดันจากค่าแรงหลังหักเงินเฟ้อที่หดตัวลง 0.2% ในเดือนก.ค. ทำให้อัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนก.ค.คงที่จากเดือนก่อน ขณะที่อัตราใช้กำลังการผลิตหดตัวลงเล็กน้อยเหลือ 77.6% จาก 77.7% ในเดือนก่อน โดยมีผลผลิตจากอุตสาหกรรมสาธารณูปโภค และอุตสาหกรรมรถยนต์ที่หดตัวลง 2.1% และ 1.7% ตามลำดับ ขณะที่ผลผลิตจากอุตสาหกรรมเหมืองเพิ่มขึ้น 2.1%
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ 10 ส.ค.ปรับลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 320,000 ราย เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 5,000 ราย ทั้งนี้ข้อมูลด้านแรงงานถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจดำเนินการลดขนาดมาตรการ QE ของ FED
- นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวว่า เศรษฐกิจอินเดียจะชะลอตัวเพียงระยะสั้น เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการเร่งลงทุนในโครงการต่างๆ ผ่อนผันเกณฑ์การถือหุ้นของชาวต่างชาติ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอย่างท่าเรือ และทางรถไฟ
- ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 8.5% เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี ทั้งนี้ ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม 2 ครั้งก่อนเพื่อแก้ปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น และค่าเงินรูเปียที่อ่อนค่าลง
- ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยประจำเดือนก.ค.เท่ากับ 9.8 หมื่นคัน ลดลง 25.4% จากปีก่อน เป็นระดับต่ำกว่า 1 แสนคันเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือนจากการส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถคันแรกที่หมดลง และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่มากขึ้นของไฟแนนซ์ ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ในเดือนก.ค. อยู่ที่ 201,446 คัน ลดลง 6.45% และยอดส่งออกอยู่ที่ 82,710 คัน ลดลง 13.99% ทั้งนี้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังคงยอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้ตามเดิมที่ 2.55 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.92%จากปีก่อน จากยอดการผลิตเพื่อส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.15 ล้านคัน จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.อยู่ที่ 91.9 ลดลงจาก 93.1 ในเดือนก่อน เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ชะลอตัว ปัจจัยกดดันจากปัญหาการเมือง และปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่
- SET Index ปิดที่ 1,453.07 จุด ลดลง 7.56 จุด หรือ -0.52% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 43,730.53ล้านบาท โดยหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด 2 อันดับแรกคือ หุ้น M(เอ็มเคสุกี้) ที่ซื้อขายเป็นวันแรกปรับเพิ่มขึ้น 8.16% มาปิดที่ 53 บาท และหุ้น CK ที่ปรับเพิ่มขึ้น 8.74% สวนทางกับตลาดหลังจากเป็นผู้ชนะการประมูลสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ประเทศลาว
- ก.ล.ต. ยืนยันว่า ยังจะใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคปเป็นหนึ่งในเกณฑ์พิจารณาอนุญาตให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น แม้ว่าที่ผ่านมาหุ้น IPO ที่เข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์ดังกล่าวจะมีราคาซื้อขายในวันแรกต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากเกณฑ์ดังกล่าวถือเป็นเกณฑ์ที่ใช้กันในระดับสากล และการใช้เกณฑ์กำไรสุทธิอย่างเดียวไม่ได้สะท้อนผลประกอบการในระยะยาว ขณะเดียวกันก.ล.ต.จะยกเลิกหลักเกณฑ์การจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ภายในสิ้นปีนี้ และจะเปลี่ยนมาเป็นกอง REITs (Real Estate Investment Trusts)แทน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.01% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธปท.อายุ 14 วัน มูลค่า 40,000 ล้านบาท
- สภาทองคำโลก รายงานว่า ความต้องการทองคำโลกในไตรมาส 2 อยู่ที่ 856.3 ตัน ลดลง 12% และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากแรงเทขายหน่วยลงทุนทองคำอย่างต่อเนื่องตามราคาทองคำที่เข้าสู่แนวโน้มขาลง รวมทั้งการชะลอซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก