“สุรนันทน์” ยืนยัน “นายกฯยิ่งลักษณ์” ยังไม่คิดปรับ ครม.ในช่วงนี้ โยนฝ่ายตรงข้ามปล่อยข่าว ตั้ง “อภิวันท์-จตุพร” เป็นรัฐมนตรี ต้องการสร้างความแตกแยกให้รัฐบาล ยาหอม “เปีย-ตู่” มีความสามารถคั่วเก้าอี้ รมต.ได้ พร้อมเชียร์แก๊งแดงก่อม็อบราชประสงค์ อ้างป้องกันรักษาประชาธิปไตย
วันนี้ (19 พ.ค.) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการ ปรับ ครม.ที่มีชื่อของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรียังไม่มีแนวคิดที่จะปรับ ครม.ในขณะนี้ แต่รายชื่อที่ออกมาเป็นข่าว ส่วนตัวเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่านายกรัฐมนตรียังไม่มีความคิดที่จะปรับ ครม.เพราะในเดือนนี้ยังมีภารกิจสำคัญหลายเรื่อง ทั้งการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 และเมื่อกลับไปกรุงเทพฯเพียงวันเดียวก็มีภารกิจที่ต้องเดินทางไปเข้าร่วมประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น และหลังจากนั้นก็ต้องเตรียมต้อนรับนายกรัฐมนตรีอินเดีย ก่อนที่จะมีภารกิจเดินทางไปประเทศศรีลังกา-มัลดีฟส์ ด้วย “ดังนั้น ในระหว่างเดือน พ.ค.และ มิ.ย.จะยังไม่มีการปรับ ครม.อย่างแน่นอน”
ส่วนที่มีกระแสข่าวดังกล่าวออกมาในขณะนี้นั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า วันนี้ยังวิเคราะห์อะไรไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่าคนมีความคิดที่แตกต่างกัน หลายคนอาจคิดว่าถึงเวลาที่ต้องปรับระบบการทำงาน ขณะเดียวกันเราเองก็พยายามเช็กสายข่าวว่าออกมาจากไหน ซึ่งก็ออกมาจากฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการสร้างความไม่มั่นคงให้กับรัฐบาล แต่อย่าไปใส่ใจว่าใครปล่อยข่าวอะไรเพราะในความเป็นจริงกรปรับ ครม.นั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีชื่อแกนนำเสื้อแดงถึง 2 คนที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ กล่าวย้ำว่า บุคคลที่มีชื่อยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเชื่อว่าสามารถเป็นรัฐมนตรีได้ แต่ขณะนี้นายกฯ ยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับ ครม.หากมีแนวคิดที่จะปรับ ครม.ตนเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้จะเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการพิจารณา
นายสุรนันทน์ ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณราชประสงค์ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่มีความเป็นห่วงการชุมนุมดังกล่าว วันนี้ก็ต้องเห็นใจและถือเป็นการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเหตุการณ์เมื่อปี 2553 เกิดการสูญเสีย มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ตนคิดว่าเป็นความเหมาะสมในการที่จะมีการรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิต รวมถึงการเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันต้องช่วยกันปกป้องรักษาประชาธิปไตย ถือเป็นสิ่งสำคัญ และเชื่อว่าผู้ที่มาชุมนุมจะชุมนุมด้วยความสงบ สันติ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ต้องช่วยกันดูแลไม่ให้มีมือที่สาม
ส่วนว่ามีรายงานว่าจะมีมือที่สามเข้ามาป่วนหรือไม่นั้น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “มีอยู่แล้ว วันนี้ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ มีฝ่ายที่มีปฏิกิริยาต่อต้าน และไม่ใช่ต่อต้านเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เป็นการต่อต้านระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำ เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นคนกลุ่มน้อยจริงๆ และเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างที่มีได้ ขณะเดียวกันต้องเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการระบอบประชาธิปไตย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องชอบรัฐบาลทั้งหมด แต่ทุกคนเห็นว่าถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ขอให้เป็นไปตามระบบและระบอบของประชาธิปไตย ใช้หลักนิติธรรม นิติรัฐในการดำเนินการต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรต่อสถานการณ์การเมืองขณะนี้ที่มีการเคลื่อนไหวของหลายๆ กลุ่ม เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการเคลื่อนไหวที่มีความต่อเนื่องและอาจเป็นไปได้ว่าฝ่ายที่มองและอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นระบอบประชาธิปไตยหากปล่อยต่อไปประชาธิปไตยจะเข้มแข็งมากขึ้น วันนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็ง การเปลี่ยนแปลงต้องมาจากประชาชนเพียงอย่างเดียว
