xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.ยันลงทุนพม่าโปร่งใส ชี้ 5 ปีนี้อัดงบ 3 พันล้านเหรียญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.วางงบลงทุนในพม่า 5 ปี 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ลงทุนในแหล่งซอติก้า คาดผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/57 ยันการลงทุนยึดหลักโปร่งใส มีจรรยาบรรณ ชี้ได้สัมปทาน MD7 และ MD8 มาอย่างถูกต้อง ไม่ผิดปกติ แย้มเตรียมยื่นประมูลซื้อสินทรัพย์ของ Hess Corp ถือในแหล่งปิโตรเลียมในไทยและอินโดฯ คาดได้ข้อสรุปปลายปีนี้

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางงบลงทุน 5 ปี (2556-2560) ในประเทศพม่าประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการซอติก้าถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจาะสำรวจ ติดตั้งแท่น และวางท่อส่งก๊าซฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/2557 กำลังการผลิต 300 ล้าน ลบ.ฟ./วัน โดยขายให้พม่า 60 ล้าน ลบ.ฟ./วัน และเข้าไทย 300 ล้าน ลบ.ฟ./วัน

ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการลงทุนในพม่ามานานถึง 23 ปีจนกล่าวได้ว่าเป็นบ้านแห่งที่สอง ซึ่งการลงทุนในพม่าของ ปตท.สผ.นั้นทำอย่างโปร่งใส ถูกต้อง มีจรรยาบรรณ และเน้นทำธุรกิจอย่างยั่งยืน โดย ปตท.สผ.เป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งการได้รับสัมปทานแหล่ง MD 7 และ MD 8 โดยไม่ต้องประมูลสัมปทานนั้นบริษัทฯ ไม่ใช่รายแรก แต่ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ประกอบการบางรายได้สัมปทานโดยไม่ต้องประมูลเช่นกัน อีกทั้งแหล่งดังกล่าวบริษัทฯ ยื่นขอสัมปทานจากรัฐบาลพม่ามา 3 ปีก่อน และเพิ่งได้สัมปทานเมื่อต้นปี 2556 เพราะทางพม่าก็เห็นว่ามีประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งเป็นแหล่งที่อยู่ใกล้แหล่งสัมปทานน้ำลึกทะเลอันดามันของ ปตท.สผ.ในไทยอยู่แล้ว เพื่อให้การเจาะสำรวจฯ ทำไปพร้อมกันอันจะลดต้นทุนการผลิต

สำหรับงบประมาณลงทุนของ ปตท.สผ. 5 ปีนี้ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 24,671 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในประเทศไทย 40% เพื่อเป็นการรักษาระดับการผลิตในประเทศที่ 2.4-2.5 แสนบาร์เรลต่อวัน ที่เหลือเป็นการลงทุนในต่างประเทศ ทำให้อนาคตสัดส่วนปริมาณการผลิตปิโตรเลียมและรายได้ของ ปตท.สผ.จะมาจากต่างประเทศเป็นหลัก และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ถึง 6 แสนบาร์เรล/วันในปี 2563 ทำให้บริษัทฯ มองหาโอกาสที่จะลงทุนโครงการใหม่ๆ โดยจะเน้นประเทศที่ ปตท.สผ.มีการลงทุนอยู่แล้ว เช่น ไทย พม่า ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปแอฟริกาตะวันออก โดยจะเน้นลงทุนในโครงการที่ใกล้จะเริ่มการผลิตหรือโครงการที่ทำการผลิตแล้ว

ในปีนี้คาดว่าบริษัทฯ มียอดขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนอยู่ที่ 3.1 แสนบาร์เรลต่อวัน และปีหน้าจะขยายตัวเพิ่มอีก 10% เนื่องจากมีปริมาณปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นจากโครงการมอนทารา ประเทศออสเตรเลีย โครงการซอติก้าที่พม่า เป็นต้น ขณะที่ราคาขายปิโตรเลียมในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะใกล้เคียง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่ 66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบขณะนี้ทรงตัวในระดับสูง 106-107 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายอัษฎากร ลิ้มปิติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ปตท.สผ. กล่าวว่า ใน 1-2 เดือนนี้บริษัทฯ จะจับมือพันธมิตรเข้าประมูลซื้อทรัพย์สินในโครงการปิโตรเลียมที่บริษัท Hess Corp ประกาศขายในประเทศไทย และอินโดนีเซีย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้

ทั้งนี้ Hess Corp ถือหุ้นในแหล่งไพลิน และแหล่งภูฮ่อมในประเทศไทย ส่วนอินโดนีเซียอีก 2 แหล่งพบว่าขณะนี้มีบริษัทหลายรายสนใจยื่นประมูลด้วย ขณะที่แหล่งเงินทุนของบริษัทฯ มีเพียงพอ

ด้านนายเทวินทร์กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่าบริษัทฯ ได้จ่ายเงินชดเชยความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่แหล่งมอนทารา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2552 เป็นวงเงิน 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐนั้น ไม่เป็นความจริง เพียงแต่จ่ายเงินค่าปรับจากการทำน้ำมันมันรั่วแก่รัฐบาลออสเตรเลีย 500,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และมีการจ่ายค่าติดตามดูแลสิ่งแวดล้อม การดำเนินการปิดหลุมผลิตกว่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีน้ำมันดิบรั่วไหลวันละ 400 บาร์เรลเป็นเวลา 74 วัน จากการสำรวจวิจัยของนักวิชาการมหาวิทยาลัยชั้นนำของออสเตรเลียระบุว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญวันละ 400 บาร์เรล
กำลังโหลดความคิดเห็น