ASTVผู้จัดการรายวัน - “ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม” เตรียมออกกองทรัสต์ฯ (REIT) 2.1 พันล้านบาทในไตรมาส 1/57 โดยจะนำคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูปประมาณ 7 หมื่น ตร.ม.ขายเข้ากองทรัสต์ และเข็นบริษัทย่อย “ทีเอฟดี โลจิสติกส์ฯ” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ กลางปีหน้าด้วย ลั่นปีนี้โกยกำไรกว่า 1 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมฯ และคอนโดฯ
นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (TFD) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts : REIT) วงเงิน 2.1 พันล้านบาทภายในไตรมาส 1/2557 โดยจะนำอาคารคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูปที่มีอยู่ 1 แสน ตร.ม.ขายเข้ากอง REIT ประมาณ 7 หมื่น ตร.ม. และที่เหลืออีก 3 หมื่น ตร.ม.บริษัทจะเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ฯ เพื่อรับรู้รายได้จากค่าเช่า โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้จัดการกอง REIT เอง ทำให้มีรายได้จากค่าบริหารจัดการเป็นรายได้ประจำ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนที่จะหาซื้อทรัพย์สินคลังสินค้าทั้งในและต่างประเทศเข้าบริหารในกอง REIT นี้ โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มขนาดสินทรัพย์ไปถึง 2 หมื่นล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะนำบริษัทย่อย คือบริษัท โทเทิ้ลอินดัสเตรียล เซอร์วิสเซส จำกัด โดยอยู่ระหว่างการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทีเอฟดี โลจิสติกส์และแวร์เฮ้าส์ จำกัด ที่ดำเนินการก่อสร้างอาคารคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูปดังกล่าว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ประมาณกลางปี 2557 โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนนี้จะใช้ในการก่อสร้างคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูป
ปัจจุบันบริษัทย่อยดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดย IFD ถือหุ้น 100% คาดว่าปีนี้บริษัทย่อยดังกล่าวจะมีกำไรสุทธิกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ จะให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้น IPO ของทีเอฟดี โลจิสติกส์ฯ ก่อนด้วย
“บริษัทมีนโยบายที่จะกระจายการลงทุนสร้างโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าไปยังภูมิภาคทั้ง 4 ภาคในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม โดยสนใจสร้างคลังสินค้าในจังหวัดใหญ่ เช่น นครสวรรค์ และนครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งจะหารือกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ว่ามีความสนใจที่จะเช่าคลังฯ เพื่อเก็บสต๊อกสินค้าหรือไม่”
นายอภิชัยกล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีนี้ว่า บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ 5 พันล้านบาทมาจากการขายที่ดินในนิคมฯ ทีเอฟดี 100 ไร่ ไร่ละ 9 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากการขายคอนโดมิเนียมสุขุมวิท 15 ทำให้ปีนี้บริษัทฯ คาดว่ามีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนหรือกว่า 1 พันล้านบาทจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 522 ล้านบาท แม้ว่าผลดำเนินงานไตรมาส 2/2556 บริษัทฯ จะขาดทุนสุทธิ 24.6 ล้านบาท โดยไตรมาส 3 นี้ผลดำเนินงานจะพลิกกลับมามีกำไร
โดยผลดำเนินงานไตรมาส 3/2556 บริษัทรับรู้รายได้จากการขายทรัพย์สินเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเอ็มเอฟซี อินดัสเตรียล อินเวสเมนท์ (M II) จำนวน 750 ล้านบาท และรับรู้กำไรจำนวน 290 ล้านบาท และทยอยรับโอนคอนโดมิเนียมสุขุมวิท 15 มูลค่าโครงการ 3.3 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้จากคอนโดนิเนียม 1.4 พันล้านบาท
ในปี 2557 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท จะมาจากการขายที่ดินในนิคมฯอีก 100 ไร่ การโอนของโครงการคอนโดมิเนียมส่วนที่เหลือประมาณ 1,900 ล้านบาท และการนำทรัพย์สินเข้ากอง REIT มูลค่า 2.1 พันล้านบาท
