“ชัชชาติ” ห่วงสุวรรณภูมิ-ภูเก็ตทะลัก คาดผู้โดยสาร High Seasonเกินขีดรองรับ สั่ง บพ.-ทอท.หาแนวทางดันกระบี่ช่วยรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำแบ่งเบาจราจร เปิดทางเอกชนลงทุน Private Jet Terminal และดิวตี้ฟรี พร้อมจี้ ทอท.เร่งปิดจ็อบซ่อมรันเวย์สุวรรณภูมิ ส่วนแท็กซี่เวย์และหลุมจอดต้องเสร็จอย่างน้อย 75% ก่อน เล็งให้การบินไทยใช้เช็กอินแอร์พอร์ตลิงก์ภายในประเทศ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาความแออัดและระบบอำนวยความสะดวกในท่าอากาศยานวานนี้ (5 ส.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะทำงานฯ ขึ้นเพื่อปรับการบริหารจัดการท่าอากาศยานเพื่อลดความแออัดในช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) หลังจากที่ผ่านมาจะเน้นเรื่องการลงทุนเพื่อขยายขีดความสามารถเป็นหลัก โดยจากประมาณการจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่ใช้บริการท่าอากาศยานช่วง High Season ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556-มีนาคม 2557 พบว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานภูเก็ตจะมีผู้โดยสารเกินขีดความสามารถจึงต้องหามาตรการแก้ปัญหา
โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีการเพิ่มเคาน์เตอร์เช็กอินผู้โดยสาร, ส่งเสริมการใช้ระบบ Auto Check in, ปรับระบบตรวจค้นผู้โดยสารขาออกภายในประเทศจากชั้น 4 เป็นชั้น 3 เพื่อใช้พื้นที่สำหรับตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และส่งเสริมให้คนไทยใช้ระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Check in) ให้มากที่สุดเนื่องจากปัจจุบันที่ใช้เพียง 50% ส่วนขาเข้าได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บริหารจัดการระบบรถสาธารณะ และรถแท็กซี่ให้มีความสะดวก พร้อมกำชับให้เร่งซ่อมรันเวย์ให้เสร็จก่อนเข้าช่วง High Season ขณะที่การซ่อมแท็กซี่เวย์ และหลุมจอดจะเสร็จไม่ทันแต่ต้องแล้วเสร็จอย่างน้อย 75% ก่อน
“มีแนวคิดจะให้สายการบินใช้เคาน์เตอร์เช็กอินและระบบขนส่งสัมภาระแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีมักกะสัน จะต้องมีสิ่งจูงใจเช่นร้านค้าให้ หรือห้องรับรองผู้โดยสาร (เลานจ์) ไว้บริการระหว่างรอเวลาเครื่องบินออกด้วย ซึ่งทางการบินไทยให้ความเห็นว่าอาจจะให้ผู้โดยสารภายในประเทศมาเช็กอินได้เพราะมีสัมภาระน้อย ส่วนจะได้หรือไม่คงต้องให้ไปคุยกันเพราะแอร์พอร์ตลิงก์มีพื้นที่ 5-6 พัน ตร.ม. รวมถึงอาจต้องหามาตรการค่าตั๋วมาช่วยจูงใจด้วย” นายชัชชาติกล่าว
ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ตนั้นจะต้องแก้ไขจุดคอขวดของผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก โดยขาเข้าทาง ตม.จะเพิ่มเคาน์เตอร์อีก 14 รวมกับของเดิม 30 เป็น 44 เคาน์เตอร์ และจะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารชั่วคราวเพื่อรองรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมกราคม 2557 ซึ่งจะช่วยลดแออัดได้ระดับหนึ่ง
นายชัชชาติกล่าวว่า ให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) หารือกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสายการบินเพื่อให้ท่าอากาศยานกระบี่เป็นอีกทางเลือกเพื่อช่วยลดความแออัดของท่าอากาศยานภูเก็ตในช่วง High Season นี้ซึ่งนโยบายต้องการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตเต็มรูปแบบแน่นอน โดยภูเก็ตมีผู้โดยสารประมาณ 1 ล้านคนต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถรองรับได้ถึง 3 ล้านคนต่อปี โดยขณะนี้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนอาคารสำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Private Jet Terminal) รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ซึ่งหากสามารถทำระบบเชื่อมต่อระหว่างภูเก็ตกับกระบี่ทางน้ำ มีระยะห่างประมาณ 100 กม.เศษ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมกว่าเท่านั้น จะเพิ่มความสะดวกและจูงใจมากขึ้น
สำหรับช่วง High Season ซึ่งมีระยะเวลา 6 เดือน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารรวม 27.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.5% มี 145,169 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 2.6% ท่าอากาศยานภูเก็ตมีผู้โดยสาร 6.35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11% มี 37,626 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.2% ท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสาร 8.94 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17.9% มี 77,327 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 15.6% แต่ยังรองรับได้ โดยเร่งรัดให้เปิดอาคารผู้โดยสารที่ 2 ในกลางปี 2557 ส่วนท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้โดยสาร 2.98 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.7% มี23,016 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.1% ท่าอากาศยานหาดใหญ่มีผู้โดยสาร 1.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.2% มี 9,098 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 7.7% และท่าอากาศยานเชียงรายมีผู้โดยสาร 6.2 แสนคน เพิ่มขึ้น 8.2% มี 3,951 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 7.1%