ทอท.ปรับแผนพัฒนาที่ดินแปลง 37 สุวรรณภูมิ 1,000 ไร่ เผยแนวคิดเดิมส่อผิดวัตถุประสงค์เวนคืน เหตุกิจกรรมไม่เกี่ยวการบิน แถมเจอธนารักษ์โขกค่าใช้ประโยชน์เพิ่มเป็น 50% “พงศ์ศักติฐ์” ยังมั่นใจสัดส่วนรายได้ Non Aero ขยับเป็น 50% ในปี 58 ฟุ้งปีนี้เติบโต 5% เหตุผู้โดยสาร 6 สนามบินพุ่ง คาดทั้งปีทะลุ 85 ล้านคน
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างปรับแผนการพัฒนาที่ดินแปลงที่ 37 พื้นที่ประมาณ 1,140 ไร่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใหม่ เนื่องจากแผนเดิมที่จะพัฒนาเป็นศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ, ศูนย์แสดงสินค้าส่งออก, อาคารสำนักงานเกรดเอรองรับธุรกิจเกี่ยวกับท่าอากาศยานและบริษัทต่างๆ, ศูนย์การค้าระดับชุมชนเกรดเอ และโรงแรมติดขัดข้อกฎหมายวัตถุประสงค์การเวนคืนเพื่อดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับการบินเท่านั้น ซึ่งกรมธนารักษ์ระบุว่าต้องเก็บค่าใช้ประโยชน์ที่ดินในอัตรา 50% แทนอัตราเดิมที่ 5% โดยเบื้องต้นจะปรับแผนพัฒนาโดยเน้นกิจกรรมด้านการบินเป็นหลัก เช่น คลังสินค้าเพิ่มเติม, อาคารผู้โดยสารสำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) โดยย้ายมาจากท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นต้น คาดว่าต้นปี 2557 รายละเอียดของแผนจะมีความชัดเจน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ทอท.มีสัดส่วนรายได้จากกิจการการบิน (Aero) 60% จากกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับกิจการบิน (Non Aero) 40% โดยปี 2556 นี้คาดว่ารายได้เชิงพาณิชย์หรือ Non Aero จะเติบโตจากปีก่อนประมาณ 5% เฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 2-3% เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารรวมในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 55-พ.ค. 56) สูงถึง 57.9 ล้านคน คาดถึงสิ้นปีงบประมาณ 56 (ก.ย. 56) จำนวนผู้โดยสารจะอยู่ที่ 85 ล้านคน และในโอกาสที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดให้บริการครบ 7 ปี ได้จัดกิจกรรม “7 Year Delight @ Suvarnabhumi Airport” ผู้ใช้บริการในร้านค้า ร้านอาหารในอาคารผู้โดยสารระหว่างวันที่ 17 ก.ค.-17 ก.ย. 56 รับคูปองชิงรางวัลใหญ่ รถเบนซ์ C180 Coupe คาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะกระตุ้นให้ผู้โดยสารใช้บริการร้านค้าและเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการช่วงไตรมาส 4/2556 กว่า 330 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ ทอท.ได้รับส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น
โดยคาดว่าภายในปี 2557 สัดส่วนรายได้ Non Aero จะเพิ่มเป็น 45% จากการส่งเสริมการขายและการปรับปรุงเพิ่มพื้นที่ในการให้บริการผู้โดยสารเพิ่มในทุกท่าอากาศยาน โดยท่าอากาศยานภูเก็ตจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสำรองและผู้โดยสารระหว่างประเทศเสร็จ ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองจะปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาทแล้วเสร็จ และในปี 2558 คาดว่ารายได้ Non Aero จะเพิ่มเป็น 50% ตามเป้าหมายได้ เนื่องจากท่าอากาศยานดอนเมืองจะปรับปรุงและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
“การเพิ่มรายได้ด้าน Non Aero นั้นจะต้องมีกิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้โดยสาร โดยทำให้สนามบินเป็นมากกว่าสนามบิน มากกว่าจะมุ่งมาใช้บริการแค่ขึ้น-ลงเครื่องบิน คือจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายเพื่อการใช้ชีวิตประจำวันและการเดินทาง ซึ่ง ทอท.มีแผนจะพัฒนาท่าอากาศยานเชียงรายเป็น Airport City โดยอยู่ระหว่างหารือกับกรมธนารักษ์ในการพัฒนาพื้นที่ 3,000 ไร่ด้วย” นายพงศ์ศักติฐ์กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งระบบเชื่อมโยงข้อมูลการซื้อขายของร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ของกลุ่มคิงเพาเวอร์ หรือ Point of Sale ทั้ง 5 สนามบิน (สุวรรณภูมิ, เชียงใหม่, หาดใหญ่, ภูเก็ต, เชียงราย) เพื่อตรวจสอบยอดจำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรี วงเงินลงทุน 312 ล้านบาทนั้น ได้ดำเนินการออกแบบระบบและจัดทำร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) แล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการจัดหาแล้ว โดยคาดว่าจะติดตั้งระบบแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน จากนั้นจะใช้งาน โดยระบบจะทำให้เกิดความสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายเพราะสามารถตรวจสอบรายได้ชัดเจนแบบ Real Time
