“ผอ.ดอนเมือง” เผย 15 ส.ค.เตรียมรื้อปรับพื้นที่อาคาร 2 ก่อนระหว่างรอ สศช.อนุมัติงบลงทุน 3,000 ล้านบาท คาดงานหลักประมูลได้ ต.ค. ตั้งเป้าเปิดใช้ 15 พ.ค. 57 แยกรับผู้โดยสารในประเทศ มั่นใจดันรายได้พาณิชย์เพิ่ม เหตุบริหารจัดการพื้นที่เอง เผย “ไลอ้อนแอร์” โลว์คอสต์ของอินโดนีเซียเตรียมเปิดบิน พ.ย.นี้
ว่าที่ ร.ท.จตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้ ทอท.จะเริ่มการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 ของท่าอากาศยานดอนเมืองในส่วนของการรื้อพื้นที่ต่างๆ โดยใช้งบประมาณปี 2557 ประมาณ 300 ล้านบาทดำเนินการ ส่วนงบลงทุน 3,000 ล้านบาทที่คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.อนุมัติสำหรับงานซ่อมแซมอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 อาคาร South Corridor อาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 5 และอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้นไปแล้วนั้นอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน หรือเดือนตุลาคม 2556 จึงจะประกวดราคาได้ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเปิดใช้อาคาร 2 ได้ทันกำหนดวันที่ 15 พฤษภาคม 2557
“ถ้ารอให้ประมูลเสร็จค่อยเริ่มงานอาจจะไม่ทันกำหนดเปิดใช้ พ.ค. 57 เพราะจะเหลือเวลาทำงานเพียง 7-8 เดือนเท่านั้น ซึ่งนอกจาก ทอท.จะเริ่มทำงานในส่วนที่ดำเนินการโดยใช้งบทำการเองแล้ว การประมูลในบางงานจะต้องใช้วิธีพิเศษเพื่อความรวดเร็ว”
ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมืองกล่าวว่า ปัจจุบันอาคาร 1 มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 18.5 ล้านคนต่อปี คาดว่าปี 2556 นี้ผู้โดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านคน โดยช่วง 6 เดือนแรกจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 7.5 ล้านคน ส่วนอาคาร 2 รองรับได้ 10 ล้านคนต่อปี รวมขีดความสามารถ 2 อาคารอยู่ที่ 28.5 ล้านคนต่อปี โดยจะใช้อาคาร 2 รองรับผู้โดยสารภายในประเทศ ส่วนอาคาร 1 ที่เปิดใช้ในปัจจุบันจะรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการพื้นที่และเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร
ทั้งนี้ คาดว่าดอนเมืองจะมีรายได้จากการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นหลังเปิดใช้ในอาคาร 2 เนื่องจาก ทอท.จะบริหารพื้นที่เอง ในขณะที่พื้นที่อาคาร 1 ส่วนใหญ่เป็นสัมปทานของกลุ่มคิงเพาเวอร์ในส่วนของร้านค้าปลอดภาษี และร้านค้าของกลุ่มเดอะมอลล์ โดยยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ ทอท.บริหารโดยทำสัญญาตรงกับผู้เช่าซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาค่าเช่าค้างชำระ โดยปี 2556 คาดว่าดอนเมืองจะมีกำไรไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทแน่นอน และในอนาคตจะมีการซื้อตั๋วออนไลน์และเช็กอินผ่านระบบมือถือโดยแสดงบัตรประชาชนที่หน้าทางเข้าได้เลย จะทำให้เคาน์เตอร์เช็กอินไม่มีความจำเป็น และนำพื้นที่ไปปรับปรุงเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์สร้างรายได้เพิ่มให้ดอนเมืองได้ โดยขณะนี้แอร์เอเชียอยู่ระหว่าวทดสอบระบบดังกล่าว เชื่อว่าจะมีอีกหลายสายการบินที่ทำเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) สนใจมาให้บริการที่ดอนเมืองเพิ่มเติม โดยในเดือนพฤศจิกายน 2556 สายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซียจะเริ่มให้บริการวันละประมาณ 6 เที่ยวบิน เส้นทางอินโดนีเซีย-ดอนเมือง, มาเลเซีย-ดอนเมือง และสิงค์โปร์-มาเลเซีย และจะเปิดสายการบินไทยไลอ้อนแอร์เพื่อบินเส้นทางในประเทศไทยด้วย