xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยวดันตลาดรถเช่าโต20%ไทยเร้นฯทุ่ม2.5พันล.ซื้อรถใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดรถเช่าเด้งรับการท่องเที่ยวบูม โลว์คอสแอร์ไลน์โต “ไทยเร้นท์อะคาร์”คาดตลาดรวมขยายตัว 20% เร่งขยายธุรกิจด้วยการเปิดรับแฟรนไชน์ และเตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์รับ AEC พร้อมลงทุนกว่า 2,500 ล้านบาท เพิ่มรถในสต็อกเป็น 10,000 คัน ด้านฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” เผยยอดขายครึ่งปีแรกฉลุย 470 ล้านบาท

นายสุขุม ธรรมณีวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ (1978) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรถเช่ารายใหญ่ เปิดเผยว่า ด้วยภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจ ธุรกิจการท่องเที่ยว อันสอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันให้ตลาดรถเช่าในประเทศที่มูลค่าต่อปีกว่า 2 หมื่นล้านบาท เติบโตได้ 10-20%

บริษัทเชื่อว่าธุรกิจรถเช่ายังไปได้ดีในอีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งในรูปแบบการเช่าระยะสั้นที่ตอบสนองลูกค้าใช้รถเพื่อการท่องเที่ยว และการเช่าระยะยาวรองรับลูกค้าในรูปแบบบริษัทและองค์กรทั่วไป ซึ่งลูกค้าในกลุ่มหลังนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันบริษัทยังตอบรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 โดยขยายธุรกิจรถเช่าด้วยการเปิดแฟรนไชน์ พร้อมมีแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทัพย์ในปีหน้าอีกด้วย

ในปัจจุบันบริษัทมีรถเช่าให้บริการใน 15 สาขา 9 สนามบินทั่วประเทศ จำนวนกว่า 7,000 คัน และภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มรถเป็น 10,000 คัน หรือมากที่สุดในสมาคมผู้ประกอบการรถเช่าไทย คาดว่าใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท และยังไม่รวมการขยายสาขาใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี พิษณุโลก อุบลราชธานี ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งใช้งบลงทุน แต่ละสาขาอีกประมาณ 25 ล้านบาท

“จากแผนงานที่กล่าวมา เราคาดว่าจะทำรายได้รวมปีนี้ถึง 1,700 ล้านบาท เติบโต 41% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่ทำได้ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนของการเช่าระยะยาว 60% และเช่าระยะสั้น 40%”นายสุขุม กล่าว

ด้านนางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร "ลามิน่า" และฟิล์มกลุ่มพิเศษ "ลูมาร์" เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.56) บริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 470 ล้านบาท คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะทำยอดได้ตามเป้าหมาย 800 ล้านบาทอย่างแน่นอน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนรายได้ของฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 740 ล้านบาท และฟิล์มอาคาร 60 ล้านบาท

“เรามองว่าตลาดรวมของฟิล์มกรองแสงปีนี้จะหดตัวตามตลาดรถยนต์ ที่สำคัญช่วงนี้ยังเจอปัญหาลูกค้าปฎิเสธการรับรถจากดีลเลอร์ ซึ่งมีผลกับธุรกิจฟิล์มกรองแสงพอสมควร แต่ปัญหาต่างๆเหล่านี้ไม่ได้เกินความคาดหมายของบริษัท และแม้จะทำเป้าหมการขายได้ 800 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่เราสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้เป็น 33%”
กำลังโหลดความคิดเห็น