ASTVผู้จัดการรายวัน - “เอนก” เคลียร์พนักงาน อสมท จบปัญหาซื้อพรีเมียร์ลีกเรียบร้อย ขอเพียงพนักงานมีส่วนร่วมในการเลือกคู่แข่งขัน หวังไม่ทับกับรายการซีซันนัลโปรแกรมที่สร้างรายได้ที่ดีให้ อสมท อยู่แล้ว คาดสัปดาห์หน้าเซ็นสัญญาซื้อขายได้ ฟากซีทีเอช ไร้กังวล ยอมอ่อนข้อให้เลือกคู่เตะใหม่ได้ ฟันธงสปอนเซอร์ไม่กระทบ
วันนี้ (17 ก.ค.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้เรียกประชุมพนักงานเพื่อชี้แจงถึงกรณีการซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกทางฟรีทีวีจากบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ว่า ยังไม่ได้เซ็นสัญญาซื้อขายกันแต่อย่างใด พร้อมตอบข้อสงสัยต่างๆ ของพนักงานก่อนที่จะสรุปผลการชี้แจงเพื่อนำไปสู่การซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกทางฟรีทีวีในอาทิตย์หน้า โดยบรรยากาศในที่ประชุมเต็มไปด้วยข้อสงสัยและมีพนักงานที่สนใจเข้ารับฟังพอสมควร พร้อมกันนี้ทาง อสมท ยังได้มีการถ่ายทอดสดผ่านระบบภายในเพื่อให้พนักงานที่ไม่ได้เข้าประชุมรับทราบไปพร้อมๆ กันด้วย
โดยข้อสงสัยต่างๆ ในครั้งนี้ ได้แก่ วิธีการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกแบบปีต่อปี ว่าทำไม อสมท ต้องยอมจ่ายที่คู่ละ 2.5 ล้านบาท หรือ 2 ล้านบาท ทั้งที่ซีทีเอชจะต้องหาช่องฟรีทีวีมาลงเพื่อออกอากาศอยู่แล้ว รวมถึงข้อสงสัยอื่นๆ ซึ่งทางกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ท่านหนึ่งที่เป็นหนึ่งในคณะทำงานดูแลเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกทางฟรีทีวี รวมถึงฝ่ายการตลาด ได้ชี้แจงคลายข้อสงสัยได้ทั้งหมด ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่พอใจต่อการชี้แจงในครั้งนี้ และยอมให้ อสมท ทำการเซ็นสัญญาซื้อขายพรีเมียร์ลีกต่อไปได้ เพียงแต่มีข้อแม้ว่าต้องการให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเลือกคู่การแข่งขันใน 17 แมตช์ครั้งนี้ด้วยเพราะอยากให้ได้คู่ที่ดีจริงๆ หรือเป็นคู่การแข่งขันที่อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ทับซ้อนกับรายการซีซันนัลโปรแกรมในช่วงนั้นๆ ที่ทำรายได้ที่ดีแก่ อสมท อยู่แล้ว เช่น รายการทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย เป็นต้น
นายธนะชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังการชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงานในครั้งนี้จบลงด้วยดีแล้ว จะดำเนินการเรื่องการเซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกต่อทันที คาดว่าน่าจะเรียบร้อยภายในอาทิตย์หน้า ทั้งนี้เหลือเพียงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เท่านั้นที่ทาง อสมท กับซีทีเอชจะต้องหารือกันอีกเล็กน้อย เช่น โปรดักชัน การผลิตรายการ ไฮไลต์ เป็นต้น ส่วนรายละเอียดสัญญานั้นไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว
จากสัปดาห์ที่ผ่านมา อสมท ได้สรุปวิธีการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกเป็นแบบปีต่อปีเสนอแก่ซีทีเอชไว้ 2 ทางเลือก คือ 1. จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้ซีทีเอชคู่ละ 2.5 ล้านบาท และแบ่งรายได้จากโฆษณาร่วมกันในอัตราส่วน 50:50 ไม่รวมรายได้จากรายการไฮไลต์ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ซีทีเอชราว 42.5 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากการแบ่งรายได้โฆษณารวมกัน) และ 2. จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้ซีทีเอชคู่ละ 2 ล้านบาท และแบ่งรายได้จากโฆษณาร่วมกันในอัตราส่วน 50:50 รวมรายได้จากรายการไฮไลต์ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ซีทีเอชราว 34 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากการแบ่งรายได้โฆษณารวมกัน)
ด้านนายวันชัย ศรีสุชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ซีทีเอช (จำกัด) กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาซื้อขายลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกกับทาง อสมท เพียงแต่หลังจากที่ทราบแนวทางที่ อสมท ต้องการแล้ว ทางบริษัทจึงได้มีการร่างสัญญาซื้อขายขึ้นมาส่งให้ อสมท นำกลับไปเสนอต่อบอร์ด อสมท อีกครั้งเพื่อเซ็นอนุมัติอย่างเป็นทางการ ก่อนจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายพรีเมียร์ลีกภายในอาทิตย์หน้าที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงแมตช์การแข่งขันใน 17 คู่ที่ได้ลงในร่างสัญญาไว้อยู่แล้วนั้น มีความเป็นไปได้สูงตามที่ทางพนักงาน อสมท เรียกร้อง เพราะ ณ เวลานี้ยังไม่ได้เริ่มการแข่งขันจริง แต่ทั้งนี้ทั้ง 17 แมตช์ที่เลือกกันนั้นมาจากทั้งสองฝ่าย เฉลี่ยจะมีการถ่ายทอดสดเดือนละ 2 คู่ เป็นระยะเวลา 10 เดือน
“ความล่าช้าในการซื้อขายลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกกับทาง อสมท ครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทางซีทีเอช เพียงแต่อาจจะทำให้แผนการทำรายการไฮไลต์ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลแข่งขันล่าช้าไปเท่านั้น แต่ไม่มีปัญหา หากเซ็นสัญญาเมื่อใดก็เริ่มทำงานกันเมื่อนั้น ส่วนเรื่องของสปอนเซอร์เองมองว่าไม่กระทบ เพราะส่วนใหญ่จะมุ่งออนกราวด์ รวมถึงเป็นสปอนเซอร์ที่ซื้อโฆษณากับทางซีทีเอชอยู่แล้วที่ต้องการซื้อพ่วงกับสื่อฟรีทีวีในครั้งนี้ด้วย” นายวันชัยกล่าว