xs
xsm
sm
md
lg

PTTGC ฟุ้ง Q3 ดีขึ้น คาดปีนี้โตตามเป้า 5-10%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - พีทีที โกลบอลฯ ฟุ้งผลดำเนินงานไตรมาส 3 ดีขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูการใช้เม็ดพลาสติก แต่ก็จับตาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง มั่นใจทั้งปีโตได้ตามเป้าหมาย 5-10% เผยไตรมาส 3 นี้เซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรกับซิโนเปค จีนเพื่อตั้งโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ และศึกษาลู่ทางการลงทุนปิโตรเคมีจาก Shale Gas โดยจับมือกับพันธมิตรในการศึกษาทั้งสแตทออยล์ และจีน

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 นี้จะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นไตรมาสเข้าสู่ฤดูการใช้เม็ดพลาสติก ซึ่งตลาดยังมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจีน และอาเซียน โดยขณะนี้ราคาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก HDPE เฉลี่ยอยู่ที่ 1,400 เหรียญสหรัฐ/ตัน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องจับตาดูเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นปัจจัยทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ก็มองว่าจีนต้องการปรับการเติบโตของเศรษฐกิจให้เป็นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม ผลดำเนินงานในไตรมาส 2/2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าบริษัทฯ มีโอกาสขาดทุนจากสต๊อกเนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (สเปรด) ยังสูง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปิดตลาดไตรมาส 2/2556 เฉียด 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำกว่าไตรมาส 1 /2556 ที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 105-108 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และค่าเงินบาทผันผวนมากทำให้บริษัทฯ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเล็กน้อย

ทั้งปี 2556 บริษัทฯ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยรายได้จะเติบโต 5-10% จากปีก่อน และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) เติบโต 10%

ส่วนแผนการลงทุน 5 ปีนี้บริษัทฯ ไม่ได้ปรับเป้าหมายแต่อย่างใด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ เน้นการลงทุนปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขยายกำลังการผลิตแบบคอขวด (Debottle neck) ยังไม่มีการลงทุนใหญ่ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าการตัดสินใจลงทุนในต่างประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย และจีนเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ตอบโจทย์การเติบโตอย่างยั่งยืน เพียงแต่ต้องทำอย่างระมัดระวังและทำในธุรกิจที่ถนัด แข่งขันได้แม้ว่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม

นายอนนต์กล่าวถึงความคืบหน้าในการลงทุนต่างประเทศว่า บริษัทฯ คาดว่าจะลงนามสัญญากรอบความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับซิโนเคม ประเทศจีนได้ภายในไตรมาส 3/2556 เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความร่วมมือด้านการตลาด และการร่วมลงทุนโรงงานผลิตพลาสติกเกรดพิเศษเพื่อป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง และอิเล็กทรอนิกส์ในจีน

นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าในเดือน ธ.ค.นี้จะลงนามสัญญาร่วมทุนกับเปอร์ตามินา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่อินโดนีเซีย โดยพีทีที โกลบอลฯ ได้เจรจาดึงพันธมิตรใหม่เข้าร่วมทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งต้องมีการเจรจาเรื่องสัดส่วนการถือหุ้น รวมทั้งมีการศึกษาสถานที่จัดตั้งโรงงาน และมูลค่าเงินลงทุน

สำหรับความร่วมมือกับปิโตรนาส ประเทศมาเลเซียนั้น คาดว่าในต้นปี 2557จะมีการตัดสินใจรอบสุดท้ายว่าจะเดินหน้าโครงการความร่วมมือต่อไปหรือไม่

ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังได้สนใจและเข้าไปศึกษาในแหล่ง Shale Gas ที่จะสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยจะร่วมกับพันธมิตรทั้งสแตทออยล์ และจีนที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งการจะเข้าไปลงทุนดังกล่าวจะไม่ซ้ำซ้อนกับ บมจ.ปตท.สผ. แต่จะเป็นการทำงานไปควบคู่กัน

ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บมจ.ไออาร์พีซี จำเป็นต้องมีการลงทุนโครงการต่างๆ ภายใต้โครงการฟินิกซ์ เพื่อให้บริษัทฯ มีความเข้มแข็ง โดยใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มั่นใจหลังจากโครงการฟินิกซ์ทยอยแล้วเสร็จในปี 2558 บริษัทฯ จะมีความเข้มแข็งขึ้น สามารถแข่งขันได้เหมือนบริษัทในเครือ ปตท.อื่นๆ

ส่วนพีทีที โกลบอลฯ นั้นต้องการเห็นเป็นบริษัทอยู่ใน TOP 500 ของบริษัทขนาดใหญ่จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune จากปัจจุบัน ปตท.อยู่อันดับที่ 81

วันนี้ (10 ก.ค.) บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล ได้เปิดดำเนินการงานหอเผาระบบปิดระดับพื้นดิน (Enclosed Ground Falre : EGF) และระบบดูดกลับไอไฮโดรคาร์บอน (Vapor Recovery Unit : VRU) เพื่อยกระดับการรักษาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีสะอาด นำร่องให้จังหวัดระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรมนิเวศต้นแบบของไทย และเป็นการดำเนินการเพื่อมุ่งดูแลสิ่งแวดล้อมในเชิงรุกด้วยความสมัครใจ โดยมีการลงทุนเบื้องต้น 1.2 พันล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น