ปาร์คกิ้งฯฟ้องอาญา "ศิธา"และผู้บริหารทอท.รวม10 คน ฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีทุจริตค่าจอดรถ สุวรรณภูมิ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ฟ้องอาญา "ศิธา"และพวกรวม 13 คนฐานทำผิดกฎหมาย ปรับเปลี่ยนทางเข้าและยึดพื้นที่อาคารจอดรถ ขัดคำสั่งศ่าลไปแล้ว เปิดแผลทอท.จ้างบริษัทเก็บเงินส่อทุจริตโชว์หลักฐานภาพและวีดีโอ ชี้ทำเงินรั่วไหล
นายธนกฤต เจนกิตติโชค ที่ปรึกษาบริษัท ปาร์คกิ้งแมนเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 4 มิถุุนายน 2556 บริษัท ปาร์คกิ้งฯ ได้ยื่นฟ้องอาญา น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กับผู้บริหารทอท.รวม13 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, ความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 เนื่องจากน.ต. ศิธา ทำผิดกฎหมายกรณีมีคำสั่งให้ปรับเปลี่ยนทางเข้าอาคารจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ซึ่งคดีระหว่าง ปาร์คกิ้งฯ กับทอท.ยังไม่ถึงที่สิ้นสุดปาร์คกิ้งฯยังคงได้รับการคุ้มครองในการดูแลพื้นที่ขาเข้าอาคารจอดรถตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 ปาร์คกิ้งฯ จึงได้ยื่นฟ้องน.น.ศิธา เป็นจำเลยที่1 กับพวกรวม 10คน โดยมี นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ กรรมการและรักษาการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เป็นจำเลยที่2 ,นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นจำเลยที่ 3 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในกรณีที่ปล่อยให้มีการทุจริตในการจัดเก็บรายได้ค่าบริการจอดรถ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายธนกฤตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ศาลมีคำสั่งให้ปาร์คกิ้งฯ เป็นผู้ดูแลช่องทางเข้าอาคารจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีหน้าที่จ่ายบัตรขาเข้า ส่วนทอท.ดูแลขาออกโดยเรียกคืนบัตรและรับชำระเงิน ซึ่งทอท.ได้มีการว่าจ้าง บริษัท แฮปปี้มีเดีย จำกัด เข้ามาจัดเก็บรายได้ค่าจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 ปาร์คกิ้งฯ ได้ตรวจพบพฤติกรรมที่ส่อทุจริต หลายประเด็น เช่น การเบิกจ่ายค่าจ้างไม่ตรงกับจำนวนพนักงานที่ทำงานจริง, มีการล้างข้อมูลบัตรจอดรถ โดยขาเข้าจ่ายบัตรที่มีการบันทึกเวลาเข้าและทะเบียนรถ แต่ขาออก เมื่อะนักงานเก็บเงินแล้วจะทำการลบข้อมูลในบัตรออกทำให้ยอดเงินไม่เข้าระบบ เป็นต้น
โดย ปาร์คกิ้งฯได้ทำหนังสือถึงทอท.หลายฉบับ เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าว โดสทำหนังสือถึงนายสมชัย สวัสดีผล ในช่วงทำหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.,ถึงผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , ถึงนางอังคณา ทันตวิวัฒนานนท์ หัวหน้าคณะทำงานควบคุมและตรวจสอบการปฎิบัติงาน ในการให้บริการอาคารและลานจอดรถ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมหลักฐานทั้งภาพถ่ายและคลิปวีดีโอและล่าสุด ถึงน.ต.ศิธา ประธานบอร์ เพื่อให้ดำเนินการกับบริษัทแฮปปี้มีเดีย ตามสัญญาจ้าง แต่ทอท.ไม่มีการดำเนินการใดๆ โดยยังคงจ่ายเงินค่าจ้างให้บริษัท แฮปปี้ฯ ตามปกติ พร้อมกับต่อสัญญาให้อีก
ซึ่งถือว่าผู้บริหารทอท.ละเลย และไม่เพียงทำให้ทอท.เสียหายจากรายได้ที่รั่วไหลแล้ว ปาร์คกิ้งฯ ได้รับความเสียหายด้วย เพราะยังมีส่วนได้ส่วนเสียกับรายได้อยู่เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด จึงฟ้องในฐานะผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม การทุจริตค่าจอดรถสุวรรณภูมินั้น เบื้องต้น ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว
