ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญประชาชน บนหน้าหนังสือพิมพ์หัวสีทุกฉบับ กรอบบ่าย วันที่ 4 มิถุนายน 2556 กรณี น.ส.พรพรรณ พรหมจารย์ อายุ 23 ปี หรือ “น้องยิ้ม”สาวสวยที่รู้จักในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก และเป็นผู้สมัคร Oishi MC Search Gen ถูกฆาตกรอำมหิต สะท้อนมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าในเวลานี้เป็นอย่างดี
“น้องยิ้ม” ตกเป็นเหยื่อของคนอย่างนายทัศไนย แสงศรี อายุ 26 ปี ที่ลงมือสังหารโหดด้วยการปาดคอขณะเข้าประชิดตัวน้องยิ้มในจังหวะที่กำลังเปิดประตูรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน ฆอ 8452 ซึ่งเป็นยานพาหนะที่น้องยิ้มใช้เดินทางสัญจรเป็นประจำ โดยนายทัศไนยฆาตกรโหดรายนี้ได้อาศัยจังหวะที่เหยื่อไม่ทันระวังตัวเปิดประตูรถยนต์ด้านหลังคนขับแล้วรีบเข้าไปนั่งบนรถแล้วใช้มีดจี้ลำคอหมายจะชิงทรัพย์ แต่เหยื่อฮึดสู้จึงพลั้งปาดไปที่ลำคอเหยื่อจนเป็นแผลฉกรรจ์
คำสารภาพหลังจากถูกจับกุมที่คนร้ายอ้างว่าพลั้งมือปาดคอเหยื่อจนเสียชีวิตยังเป็นปริศนา เพราะผู้ตายมีรูปร่างหน้าตาดี หลายคนตั้งข้อสังเกตว่านั่นเป็นเพียงการกล่าวอ้างของฆาตกรที่เหยื่อเสียชีวิตไปแล้วไม่มีโอกาสมาโต้แย้งแต่อย่างใด?!
ย้อนเหตุการณ์ไปบ่ายวันที่ 3 มิถุนายน 2556 ก่อนเกิดเหตุ “ทัศไนย” ซึ่งมีอาชีพทำงานในโรงงานเครื่องสำอางเมล็อท อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นั่งรถประจำทางมาจากสมุทรปราการมาลงที่ป้ายรถเมล์เดอะมอลล์ บางกะปิ โดยระหว่างการเดินทาง “ทัศไนย” เครียดจนคิดไม่ตกกับจำนวนค่างวดผ่อนรถจักรยานยนต์ที่ตนเองเช่าซื้อมาจากไฟแนนซ์แห่งหนึ่งแต่ขาดการจ่ายค่างวดมาเป็นเวลากว่า 3 เดือน โดยล่าสุดไฟเเนซ์ได้ยื่นโนติสที่จะขอยกเลิกสัญญาเช่าซื้อและยึดรถจักรยานยนต์กลับไปในที่สุด
“ทัศไนย” ต้องลำบากมิใช่น้อยหากขาดยานพาหนะคู่กายไปทำงานที่ทำงานเฉกเช่นทุกวัน ตอนนี้เขาไม่มีรถจักรยานยนต์ไว้ขับขี่ไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระเหมือนเมื่อก่อน จึงเปรียบเสมือนนกปีกหักที่ต้องเกิดความเครียดไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาไถ่ถอนรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งถูกยึดไปหรือจะนำไปดาวน์รถจักรยานยนต์คันใหม่ออกมาขับขี่แทน
“ต้องปล้น!” เสียงอำนาจมืดจากซาตานในห้วงลึกของจิตใจดังกังวานขึ้นไปยังโสตประสาทสมองส่วนกลางของ “ทัศไนย”ให้รับรู้และตัดสินใจที่จะเล็งหาเหยื่อและลงมือในที่สุด!!!
“น้องยิ้ม” สาวสวยวัยสดใสในชุดเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นสไตล์แฟชั่นที่ผู้หญิงยุคใหม่นิยมสวมใส่ กับกางเกงขาสั้นจนเห็นเรียวขาที่ขาว กำลังเดินซื้อของภายในห้างเดอะมอลล์บางกะปิ โดยมีเครื่องประดับเป็นสร้อยคอทองคำที่คอและพกพาโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมราคาแพงพูดคุยกับสาย ตกเป็นเป้าหมายสำคัญที่ฆาตกรโหดรายนี้เลือก...
ฆาตกรตัดสินใจสะกดรอยตาม “น้องยิ้ม” เหยื่ออันโอชะที่มันรอจังหวะขย้ำท่ามกลางบรรยากาศศในเมืองหลวงที่ผู้คนเดินขวักไขว่วุ่นวายอย่างไม่สนใจสิ่งรอบกาย
เมื่อเหยื่อซื้อของเสร็จก็เตรียมเดินทางกลับบ้านพักย่านถนนสุขาภิบาลโดยเธอเดินนข้ามสะพานลอยจากเดอะมอลล์ บางกะปิไปยังบริเวณลานจอดรถโซน 5 ซี ห้างเทสโก้ โลตัส สาขาบางกะปิ โดยมี “ทัศไนย” ฆาตกรโหดเดินตามอยู่ห่าง ๆ จนเธอไม่รู้ตัว จังหวะเดียวกันกับตอนที่เธอกดสวิสต์รีโมทรถยนต์ปลดล็อค “ทัศไนย” ก็เข้าประชิดตัวโดยการเปิดประตูด้านหลังคนขับเข้าไปนั่งทอดกายอยู่ในรถโดยมีมีดเป็นอาวุธจี้ไปที่บริเวณลำคอของเหยื่อ
“มึงอย่าขัดขืนไม่งั้นตาย!”
เสียงคำขู่ของคนร้ายไม่สามารถสะกดเหยื่อให้หยุดนิ่งตามาคำสั่งได้เพราะเธออยู่ในอาการตกใจกลัวอย่างสุดขีดจึงพยายามขัดขืนคนร้ายจนมีดที่คนร้ายจ่ออยู่บริเวณลำคอด้านขวาปาดไปถูกเส้นเลือดใหญ่ลำคอจนขาดสะบั้น
เลือดสีแดงฉานพุ่งปรี๊ดออกจากบริเวณปากแผลจนทำให้ห้องโดยสารมีเลือดไหลนองเต็มเบาะ จน “น้องยิ้ม”ล้มฟุบไปหายใจรวยริน คนร้ายจึงนำร่างที่ยังมีลมหายใจรวยรินอยู่ไปไว้ที่บริเวณเบาะหลังแล้วเอนเบาะด้านนั่งคนขับเพื่อปิดบังอำพรางไม่ให้เป็นที่สังเกตดังประหนึ่งว่ามีหญิงสาวยนอนหลับอยู่ที่เบาะหลังรถเท่านั้นก่อนมันจะขึ้นไปจับพวงมาลัยแทนที่แล้วขับรถยนต์ของผู้ตายออกจากจุดเกิดเหตุทันที
“มันตัดสินใจปล่อยให้เธอค่อย ๆ ตายจากอาการเสียเลือดเป็นจำนวนมากโดยไม่คิดจะนำส่งโรงพยาบาลอย่างเลือดเย็นผิดมนุษย์”
คนร้ายคิดอะไรไม่ออกหลังเกิดเหตุจึงขับรถยนต์นำร่างผู้ตายไปที่โรงแรมม่านรูดห้อง 406 ย่านบางกรวย ซึ่งเป็นห้องที่มันเคยพาแฟนสาวสมัยเป็นทหารเกณฑ์เข้าพัก โดยเด็กรับรถเปิดม่านให้นำรถยนต์จอดเข้าพักตามปกติพร้อมกับปิดม่านในทันที จังหวะเดียวกันคนร้ายก็รีบนำร่างไร้วิญญาณของ ”น้องยิ้ม”เข้าไปในห้องพักในทันทีก่อนนำร่างผู้ตายที่เต็มไปด้วยนคราบเลือดไปนอนทอดยาวบนพื้นห้องน้ำโดยมันลืมไม่เสียสนิทว่าขณะที่มันอุ้มร่างเหยื่อมานั้นคราบเลือดได้ไหลนองมาเป็นทางมารตั้งแต่ออกจากรถ จนเด็กรับรถมาพบขณะจะไปขอบัตรประชาชนเพื่อทำประวัติการเปิดห้องพักตามระเบียบการเข้าพักทั่วไป
เด็กรับรถรีบวิทยุสื่อสารไปแจ้งให้ผู้จัดการโรงแรมทราบทันทีก่อนที่ผู้จัดการจะแจ้งไปยังร.ต.ท.สายยนต์ ทองทา ร้อยเวร โรงพักบางกรวยท้องที่เกิดเหตุนำกำลังมาจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้ในเวลาต่อมาหลังพยายามวิ่งหลบหนีออกไปนอกโรงแรม
จากนั้น พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ภักดีณรงค์ รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.กิตติ สกุณี ผกก.สภ.บางกรวย พ.ต.ท.ชัยณรงค์ สมบูรณ์ดี รีบรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
สอบสวนนายปรีชา สรงเกตุ อายุ 31 ปี พนักงานโรงแรมดังกล่าวเล่าว่า ตนเป็นคนโบกให้รถเข้าไปที่ห้องดังกล่าว เห็นนายทัศไนยอุ้มผู้ตายขึ้นห้องโดยติดเครื่องรถไว้ หลังจากนั้นคนร้ายก็ลงมาเช็ดเลือดที่พื้น ด้านล่างที่จอดรถพอตนเห็นก็บอกว่าแบบนี้รับเข้าพักไม่ได้ หลังจากนั้นคนร้ายก็รีบเดินออกจากโรงแรม ตนรีบวิ่งขึ้นไปดูในห้องพบผู้หญิงนอนจมกองเลือดอยู่จึงวิ่งลงมาบอกหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานให้รีบช่วยกันจับตัวคนร้าย ด้านคนร้ายหลังออกจากห้องพักได้รีบวิ่งไปที่ถนนด้านหน้าแล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเรียกแท็กซี่หนี แต่ตนและพนักงานคนอื่นๆ ได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้บริเวณหน้าศูนย์รถอีซูซุและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ธนายุตม์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย นำตัว ผู้ต้องหามาทำแผนได้มีประชาชนมามุงดูการทำแผนจำนวนมาก จนบางรายถึงกับโกรธแค้นในความโหดเหี้ยมของผู้ต้องหาพยายามที่จะเข้ามาประชาทัณฑ์
นายทัศไนย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงและอ้างว่าได้ซื้อมีดที่ใช้ก่อเหตุมาจากห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก เพียงประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น ไม่หวังชีวิตและข่มขืน ตนรู้สึกเสียใจและอยากขอโทษต่อครอบครัวของผู้ตาย หลังจากทำแผนเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่รีบควบคุมตัวขึ้นรถทันทีเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากไทยมุงมีจำนวนมาก
พล.ต.ต.ธนายุตม์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอ ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และมีด ซึ่งตรวจพบบนรถแท็กซี่ที่ผู้ต้องหานั่งขณะหลบหนี จากการตรวจสอบพบรอยนิ้วมือของผู้ต้องหาบนมีดที่พบ ซึ่งคดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จอดรถในอาคารจอดรถ ให้จอดในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ก่อนขึ้นรถให้สังเกตว่ามีสิ่งผิดปกติหรือคนแปลกหน้าเดือนตามหรือไม่ รวมถึงให้ล็อกรถทันที เพื่อป้องกันเหตุ
หากมองย้อนไปที่ต้นตอการเกิดคดีอาชญากรรมครั้งนี้ สามารถวิเคราะห์ประเด็นปัญหาได้ดังนี้ 1 . ปัญหาด้านการเงินของคนร้าย 2.ความประมาท และ 3 . ระบบรักษาความปลอดภัยภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าไม่มีประสิทธิภาพ
เป็นสิ่งที่ทางห้างสรรพสินค้าต้องหันมาทบทวนและใส่ใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ผู้บริโภคมากขึ้น หลังจากหลายปีที่ผ่านมามีการตัดรายจ่ายเรื่อง รปภ.ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณลานจอดรถ และอีกหลายแห่งที่มีเพียงกล้อง CCTV.คอยรับรถเท่านั้น
อย่างกรณีห้างที่เกิดเหตุมีเพียงพนักงานคอยแจกบัตรรับรถเข้าจอดโดยคิดอัตราค่าจอดรถ 3 ชั่วโมงแรกสำหรับลูกค้าสามารถจอดฟรี ชั่วโมงต่อมา 20 บาท และชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 50 บาท เป็นการคิดค่าบริการจอดรถในขณะที่ไม่ รปภ.คอยบริการรักษาความปลอดภัยให้ลูกค้าหรือผู้จอด
สะท้อนมาตรการรักษาความปลอดภัยห้างฯห่วย!!! จนเกิดคดีจี้ปาดคอคาลานจอดรถห้างฯ จนเป็นข่าวสะเทือนขวัญประชาชน เรื่องอย่างนี้จะไม่เกิดขึ้นหากทุกคนไม่ประมาทและห้างสรรพสินค้ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ
ขอให้กรณีการเสียชีวิตของ “น้องยิ้ม” เป็นบทเรียนสำคัญที่ให้ทุกฝ่ายหันมาตระหนักเห็นความสำคัญไม่เรื่องนี้เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย!!!
สอนของพ่อ สถิตในดวงใจ / รายงาน