“ครม.” เห็นชอบ รฟม.ปรับแผนกู้เงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะที่ 3 วงเงิน 1.27 หมื่นล้านบาท จากแหล่งเงินในประเทศแทนไจก้า เหตุต้นทุนการกู้เงินต่ำกว่า
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบทบทวนแหล่งเงินกู้สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะที่ 3 วงเงิน 1.27 หมื่นล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอจัดหาเงินกู้จากแหล่งเงินในประเทศแทนการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA)
โดยกระทรวงการคลังได้รายงานว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) มีวงเงินกู้ทั้งโครงการจำนวน 110,853.40 ล้านเยน หรือประมาณ 37,733 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้มีการกู้เงินจากJICA ในระยะที่ 1 วงเงิน 62,442.00 ล้านเยน หรือ 1.98 หมื่นล้านบาท และการกู้เงินระยะที่ 2 วงเงิน 16,639.00 ล้านเยน หรือ 6.1 พันล้านบาท ส่วนโครงการในระยะที่ 3 วงเงิน 31,772.35 ล้านเยน หรือ 1.27 หมื่นล้านบาท เดิมคาดว่าจะดำเนินการกู้เงินจาก JICA เช่นเดิม โดยต่อมาทาง JICA ได้มีหนังสือชี้แจงมายังกระทรวงการคลังว่า JICA ได้ปรับฐานะของประเทศไทยในการกู้เงินจากประเทศในกลุ่ม Middle-Income Country เป็น Upper-Middle income Country ทำให้อัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยสูงขึ้นจากเดิม โดยเงินกู้ระยะ 15-25 ปีมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 0.8-1.4% ต่อปี ปรับขึ้นเป็น 1.5-1.7% ต่อปี ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้กระทรวงพาณิชย์ทำต้นทุนเปรียบเทียบเงินกู้ในประเทศ พบว่าในปัจจุบันต้นทุนการกู้เงินจาก JICA มีต้นทุนการกู้เงินสูงกว่าการกู้เงินในประเทศ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้หารือกับ รฟม. และมีความเห็นตรงกันในการเปลี่ยนแปลงการกู้เงินของรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะที่ 3 มาเป็นการกู้เงินจากแหล่งเงินภายในประเทศแทน โดยกระทรวงการคลังจะจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมให้ รฟม.ต่อไป ซึ่งการกู้เงินในประเทศนอกจากมีต้นทุนการกู้เงินต่ำกว่า ยังสามารถทยอยกู้ได้ตามความก้าวหน้าและการใช้เงินของโครงการโดยไม่มีค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้อีกด้วย