พิษข้าวจำนำเน่าทำข้าวถุงวุ่น ค้าปลีกวิ่งการันตี

ASTVผู้จัดการรายวัน - ASTVผู้จัดการรายวัน - พิษข้าวถุงเน่ากระเทือน ผู้ผลิต-โมเดิร์นเทรด วิ่งวุ่น การันตี “บิ๊กซี” เปิดโรงงานผลิตข้าวถุง ย้ำความมั่นใจข้าวถุง “บิ๊กซี แบรนด์” ควบคุมคุณภาพ-ปลอดภัยตลอดกระบวนการ ด้านเดอะมอลล์กรุ๊ปยันซัปพลายเออร์ที่ผลิตข้าวถุงเฮาส์แบรนด์ให้ไม่ได้อยู่ในโครงการรับจำนำข้าว

จากกระแสข่าวเกี่ยวกับข้าวบรรจุถุงมีสารพิษเจือปนจากการใช้สารเคมีของบรรดาโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวจากผลพวงของปัญหาการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้น ส่งผลให้กระทบต่อตลาดข้าวถุงจำนวนมาก

ล่าสุดนายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้นำคณะสื่อมวลชนชมโรงงานผลิต “ข้าวถุง บิ๊กซี แบรนด์” โดยได้เชิญนายบุรินทร์ ธนถาวรลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ข้าวแสนดี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวบิ๊กซีแบรนด์รายใหญ่ที่สุด และนายกรินทร์ พัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมและรับประกันคุณภาพสินค้า บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ อธิบายกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพ-ความปลอดภัยของข้าวถุง ภายหลังข่าวลือในโซเชียลมีเดียว่ามีการจำหน่ายข้าวที่ฉีดยากันรากันมอดในปริมาณที่สูงผ่านห้างค้าปลีกรายใหญ่

บิ๊กซีได้ดำเนินการจำหน่ายข้าวบรรจุถุง “บิ๊กซี แบรนด์” มาแล้ว 7 ปี โดยมีการว่าจ้างผู้ผลิตข้าวถุงชั้นนำของไทย 5 บริษัทผลิตข้าวถุงแบรนด์บิ๊กซี

นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ย้ำว่า “บิ๊กซีคัดเลือกผู้ผลิตข้าวถุงทั้ง 5 รายอย่างรอบคอบ โดยทุกรายต้องได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการคุณภาพด้านความปลอดภัย (Hazard and Analysis and Critical Control Point-HACCP) ซึ่งใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิตให้ได้อาหารที่ปราศจากอันตรายจากเชื้อจุลินทรีย์ สารเคมี และสิ่งแปลกปลอม และมาตรฐานการผลิตที่ดี (Good Manufacturing Practice - GMP) โดยมีการตรวจสอบโรงงานและกระบวนการผลิตของผู้ผลิตทุกขั้นตอน และยังมีการตรวจสอบ Factory Audit เป็นประจำทุกปี โดย HACCP และ GMP ถือเป็นมาตรฐานหลักที่ต้องใช้กันทั่วโลก

โดย GMP จะควบคุมพื้นฐานการผลิตที่ดี ส่วน HACCP จะวิเคราะห์อันตรายว่าอะไรอาจจะเกิดขึ้น เช่น ทางกายภาพ ได้แก่ มีเศษแก้วปะปนหรือไม่ ทางเคมี เช่น มีสารปนเปื้อนหรือไม่ และทางชีวิภาพ เช่น มีจุลินทรีย์ไหม ฯลฯ”

“สำหรับขั้นตอนการจัดซื้อข้าวเข้าโรงงานจะมีซัปพลายเออร์ที่ทำงานกันมานานเป็นสิบปี นอกจากนี้ก็จะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแต่ละโรงสีว่ามีมาตรฐานการผลิตข้าวอย่างไร เมื่อเลือกซัปพลายเออร์ได้แล้วก็ตรวจสอบคุณภาพ หากพบว่าคุณภาพไม่ดีก็จะส่งคืนในการเก็บรักษาข้าว ปกติแล้วทางภาครัฐจะกำหนดไว้ว่าต้องมีความชื้นมาตรฐานไม่เกิน 15% แต่สำหรับของแสนดีจะกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 14% และที่สำคัญข้าวไม่มีไขมัน ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดรามีน้อยมาก”

ภายหลังกระแสข่าวลือในโซเชียลมีเดีย บิ๊กซีได้เพิ่มมาตรการรับประกันความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้วยการส่งตัวอย่างข้าวถุงบิ๊กซีแบรนด์ที่กำลังวางจำหน่ายไปตรวจสอบสารตกค้างในระดับที่ละเอียดมาก หรือที่เรียกว่าการตรวจ SGS เพื่อแสดงให้เห็นว่าข้าวบิ๊กซีแบรนด์ปราศจากสารตกค้าง ซึ่งจะได้รับผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ และในอนาคต หากผู้ผลิตข้าวถุงรายใดจะใช้ข้าวที่มาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก็จะต้องส่งข้าวล็อตดังกล่าวไปตรวจ SGS ก่อนบรรจุถุงทุกครั้ง และบิ๊กซีจะไม่รับข้าวจากโครงการจำนำฯ ที่ไม่มีผลตรวจ SGS

“บิ๊กซีให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยด้านอาหาร โดยข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยทุกคนได้รับการคัดเลือก ควบคุม และตรวจสอบคุณภาพอย่างเคร่งครัดทุกกระบวนการตามมาตรฐานสากลดังที่ผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายในวันนี้ บิ๊กซีจึงหวังว่า ผู้บริโภคจะมั่นใจและสบายใจว่าข้าวถุงบิ๊กซีแบรนด์ปลอดภัยต่อสุขภาพแน่นอน” นายกุฎาธารสรุป

นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ผู้จัดการใหญ่ บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต เดอะมอลล์กรุ๊ปผู้บริหารร้านกูร์เมต์มาร์เก็ตกับโฮมเฟรชมาร์ท กล่าวว่า ในส่วนของเดอะมอลล์กรุ๊ปนั้น ขณะนี้การจำหน่ายข้าวถุงทั้งเฮาส์แบรนด์และของซัปพลายเออร์ยังปกติ แต่อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่เกิดขึ้นได้ประสานงานกับทางซัปพลายเออร์ทุกรายให้ส่งใบการันตีคุณภาพ และใบรับรองมาตรฐานต่างๆ มาให้ทางเดอะมอลล์เพื่อสร้างความมั่นใจ

ทั้งนี้ ข้าวถุงเฮาส์แบรนด์ของเดอะมอลล์ใช้ซัปพลายเออร์รายเดียวผลิตให้คือ ข้าวแสนดี ซึ่งซัปพลายเออร์รายนี้ก็ไม่ได้อยู่ในโครงการรับจำนำข้าวจากรัฐบาลแต่อย่างใด ขณะที่ข้าวของซัปพลายเออร์แต่ละรายนั้นก็มีความเข้มงวดในการตรวจทุกขั้นตอนอยู่แล้ว รวมไปถึง ข้าวตัก ที่มีซัปพลายเออร์ 5 รายก็ผ่านการตรวจควบคุมอย่างรอบคอบ อีกทั้งเรามีเจ้าหน้าที่จากทางกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาช่วยในการตรวจสอบควบคุมทุกขั้นตอนอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้การจำหน่ายข้าวถุงในซูเปอร์มาร์เกตของเดอะมอลล์ยังเป็นไปตามปกติ