xs
xsm
sm
md
lg

“อมตะ วีเอ็น” ลั่นเข้าตลาดปีนี้ จีบรัสเซียร่วมทุนนิคมฯ ใหม่ที่เวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - “อมตะ วีเอ็น” ลั่นขายหุ้น IPO ครึ่งปีหลังนี้ 140 ล้านหุ้น เพื่อระดมทุนไปพัฒนาโครงการอมตะเอ็กซ์เพลส มูลค่า 6-9 พันล้านบาทที่เวียดนาม ยันขณะนี้อยู่ระหว่างทำมาสเตอร์แพลนก่อนยื่นขอใบอนุญาตจากเวียดนาม แย้มเจรจาดึงรัสเซียเข้าเป็นพันธมิตรร่วมทุนด้วย

นางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการอมตะเอ็กซ์เพลสซิตี้ บนพื้นที่ 8-9 พันไร่ ที่ จ.ดองไน เวียดนาม ว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการเจรจาหาพันธมิตรต่างชาติ อาทิ รัสเซีย เพื่อเข้ามาร่วมทุนในโครงการอมตะเอ็กซ์เพลส โดยจะเน้นหาพันธมิตรที่มีความเชี่้ยวชาญในด้านที่บริษัทฯ ยังไม่มีประสบการณ์ เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุน 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6-9 พันล้านบาท โดยยกระดับนิคมฯ ให้เป็นเมืองที่สมบูรณ์ (Perfect Smart City)

โครงการดังกล่าวบริษัทฯ จะพัฒนา 2 โครงการ คือ ทำนิคมอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง (นิคมฯ ไฮเทค) บนพื้นที่ 3.5 พันไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำมาสเตอร์แพลนก่อนยื่นขอใบอนุญาตการลงทุน คาดว่ามีความชัดเจนในปี 2557 และใช้เวลาดำเนินการประมาณ10 ปี คาดว่าปีหน้าจะทยอยดำเนินโครงการได้ เน้นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานน้อย เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ โดยพื้นที่ดังกล่าวจะรองรับอุตสาหกรรมได้ 120-130 โรงงาน

โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและบริการอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ศูนย์ประชุมฯ เป็นต้น บนพื้นที่ 4 พันไร่ จะเริ่มดำเนินการหลังจากนิคมฯ ไฮเทคเดินหน้าไปแล้ว 50% คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 20 ปี

“โครงการอมตะเอ็กซ์เพลสซิตี้อยู่ติดกับถนนไฮเวย์ที่มุ่งตรงสู่สนามบินแห่งใหม่ที่นครโฮจิมินห์ตามที่รัฐบาลเวียดนามมีแผนจะสร้างขึ้น ไม่ไกลจากสนามบินและท่าเรือ ที่ผ่านมานักลงทุนญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ เกาหลีเข้ามาลงทุนในเวียดนามจำนวนมาก ขณะที่นักลงทุนไทยมีการลงทุนในเวียดนามน้อยลง”

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสที่จะขยายพื้นที่นิคมฯ เบียนหัว ที่เวียดนาม ซึ่งเป็นนิคมฯ แห่งแรกของบริษัทที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามเมื่อ 19 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันยังมีที่ดินเหลืออยู่ 600-700 ไร่จากทั้งหมด 4 พันไร่

สำหรับแหล่งเงินทุนในการพัฒนานิคมฯ แห่งใหม่ในเวียดนามนั้น จะนำ บมจ.อมตะ วีเอ็น ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักในเวียดนามเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 140 ล้านหุ้นภายในครึ่งปีหลังนี้ ล่าช้าจากแผนเดิมที่เคยวางไว้ว่าจะเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ ซึ่งโชคดีเพราะช่วงเวลานั้นตลาดหุ้นผันผวนมาก โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นางสมหะทัยกล่าวต่อไปว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพการลงทุนด้านเกษตรอุตสาหกรรม และมีแรงงานที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนเข้ามา ขณะที่การบริหารต้นทุนหรือความเสี่ยงการทำโครงการน้อยกว่าไทยเพราะไม่มีต้นทุนในการซื้อที่ดินเหมือนไทย เนื่องจากที่ดินของเวียดนามจะอยู่ในรูปแบบการเช่า และต้องจ้างที่ปรึกษาในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเพื่อเสนอรัฐ หากโครงการผ่านความเห็นชอบจึงค่อยลงทุนได้ แต่หากไม่ผ่านก็มีค่าใช้จ่ายแค่จ้างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเท่านั้น

ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติรอประกาศนโยบายการลงทุนใหม่ของรัฐบาลเวียดนามที่จะประกาศในปลายเดือน มิ.ย.หรือต้นเดือน ก.ค.นี้เพื่อพิจารณาตัดสินใจลงทุน หากพบว่านโยบายออกมาเป็นที่ยอมรับของนักลงทุนต่างชาติ เชื่อว่าตัวเลขการลงทุนตรงจากต่างชาติ (FDI) ของเวียดนามในปีนี้จะกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง หลังจากติดลบมาตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่หากนโยบายไม่เป็นที่ต้องการของนักลงทุนแล้ว บริษัทก็คงต้องหารือกับรัฐบาลเพื่อแนวทางปรับนโยบายต่อไป

โดยยอมรับว่าอุปสรรคสำคัญต่อการลงทุน ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค การเวนคืนที่ดิน ค่าเงินด่งที่อ่อนค่าลง และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายด้านภาษีบ่อยครั้ง ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น

ทั้งนี้ บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) (AMATAV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AMATA ผ่านการถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 89.83 ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินทุนไปพัฒนาโครงการใหม่ในประเทศเวียดนาม ตั้งเป้าตอกย้ำการเป็นผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมชั้นเลิศในประเทศเวียดนาม โดยอมตะ วีเอ็นถือหุ้นในนิคมฯ อมตะเบียนหัว 69.99%
กำลังโหลดความคิดเห็น