xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"ออนทัวร์ศรีลังกา-มัลดีฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธีรัตถ์ รัตนะเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยแผนการเยือนศรีลังกา และมัลดีฟส์ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 31พ.ค.-2มิ.ย.นี้ว่า เป็นการตอบรับคำเชิญของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ เพื่อเสริมสร้างโอกาสความร่วมมือระหว่างกัน โดยไทยและศรีลังกามีศาสนาพุทธนิกายสยามวงศ์ เป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมานานนับ 260 ปี
ทั้งนี้ ในการเยือนศรีลังกา นายกรัฐมนตรีจะได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาศรีลังกา ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์สถาบันนิติบัญญัติของ 2 ประเทศ ส่วนมัลดีฟส์ ยังไม่เคยมีการเยือนระดับผู้นำไทย มัลดีฟส์เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนเพื่อเปิดโอกาสให้ 2 ประเทศได้พัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมืออย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้ง ส่งเสริมดูแลการลงทุนของไทยในมัลดีฟส์ ที่มีการลงทุนสำคัญในภาคการท่องเที่ยว ประมง และอาหารฮาลาล
สำหรับกำหนดการเดินทางเยือน ศรีลังกา ครั้งนี้ เป็นการตอบรับคำเชิญของ นายมหินทะ ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกา เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีศาสนาเป็นพื้นฐานที่เข้มแข็ง และความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน โดย นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีมหินทะ ราชปักษา การร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับ การพบปะภาคเอกชนไทย-ศรีลังกา และการกล่าวสุนทรพจน์ ต่อสมาชิกรัฐสภาศรีลังกา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะมีกำหนดการเดินทางไปยังเมืองแคนดี้ เพื่อร่วมฉลอง 260 ปี แห่งการสถาปนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา โดยจะเข้ากราบนมัสการพระมหานยกฝ่ายมัลวัตตะและฝ่ายอัสกิริยะ นิกายสยามวงศ์ และพิธีอุปสัมปทา ณ วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว อันเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดของศรีลังกา
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ณ ประเทศศรีลังกาแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะมีกำหนดเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ตามคำเชิญของ ดร.โมฮัมหมัด วาฮีด ประธานาธิบดีแห่งมัลดีฟส์ ในโอกาสการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 34 ปี นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันเมื่อปี 2522 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไทยให้ความสำคัญกับมัลดีฟส์ในฐานะมิตรประเทศที่สำคัญในเอเชียใต้ และต้องการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือรอบด้านกับมัลดีฟส์ในลักษณะความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือในสาขาที่มัลดีฟส์ต้องการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันมีภาคเอกชนไทยลงทุนในมัลดีฟ และมีความสำคัญในลำดับต้นๆ ของนักลงทุนจากต่างประเทศในมัลดีฟ รัฐบาลจะได้ดูแล สนับสนุน และคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุนไทย จากความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด วาฮีด การร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับ การเยี่ยมชม Smart City ศึกษาการแปรสภาพน้ำเค็มเป็นน้ำจืด และการเข้าเยี่ยมคารวะโดยบุคคลสำคัญของฝ่ายมัลดีฟส์
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะนำภาคเอกชนจากสภาธุรกิจ และสมาคม ในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ สาขาการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาหาร พลังงาน / เศรษฐกิจสีเขียว อัญมณีและเครื่องประดับ การก่อสร้าง และการศึกษา ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานเพื่อเปิดโอกาสและแสวงหาลู่ทางการลงทุนทั้งในศรีลังกาและมัลดีฟส์ด้วย เนื่องจากทั้งสองประเทศถือเป็นแหล่งการลงทุนที่มีศักยภาพต่อภาคเอกชนไทยที่ต้องการขยายการลงทุนในเอเชียใต้ อันจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจตามนโยบาย Look West ของไทยอีกทางหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น