“ประเสริฐ” สั่งผุดท่าเรือสนามบินภูเก็ตเชื่อมผู้โดยสาร “ลงเรือ ขึ้นเครื่อง” ลดแออัดสนามบินและแก้จราจรเมืองภูเก็ตย่นเวลาเดินทาง ดันขอใข้งบกลาง 238 ล้านบาท ด้าน ทอท.จี้ “ซิโน-ไทย” ปรับการก่อสร้าง เหตุขยายภูเก็ตยังช้ากว่าแผน พร้อมเจรจาสร้างเทอร์มินัลสำรอง ยอมจ่ายเพิ่ม 100 ล้านบาท ตั้งเปัาเสร็จในสิ้นปีเพิ่มขีดรับผู้โดยสารเป็น 14 ล้านคนต่อปี ดันรายได้เพิ่มปีละ 500-600 ล้านบาท
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจสอบความพร้อมพื้นที่ก่อสร้างท่าเรือท่าอากาศยานภูเก็ต “โครงการลงเรือ ขึ้นเครื่อง” ว่า เป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกในการเดินทางจากท่าอากาศยานไปยังจุดท่องเที่ยว และเกาะต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ทางถนนที่ปัจจุบันมีสภาพติดขัดมาก โดยกรมเจ้าท่า (จท.) จะก่อสร้างท่าเทียบเรือและอาคารผู้โดยสาร (เทอร์มินัล) บริเวณด้านหลังท่าอากาศยานภูเก็ตติดกับอาคารร้านอาหารศูนย์วิทยุการบิน โดยท่าเรือจะยื่นออกไปในทะเลประมาณ 250 เมตร ส่วนอาคารรองรับผู้โดยสาร 5,000-10,000 คนต่อวัน งบประมาณรวม 238 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน โดยออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมดำเนินการ และท่าเทียบเรือไม่จำเป็นต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งจะเร่งเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขอใช้งบกลางดำเนินการ เนื่องจากเป็นโครงการเร่งด่วน ซึ่งอาจต้องปรับแผนก่อสร้างเร่งรัดให้เสร็จใน 1 ปี
ทั้งนี้ โครงการเป็นความร่วมมือระหว่างกรมเจ้าท่ากับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เนื่องจากภายในปีนี้ท่าอากาศยานภูเก็ตจะมีผู้โดยสารถึง 10.5 ล้านคนซึ่งแออัดมาก โครงการจะรองรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปหาดป่าตอง หรือเกาะต่างๆ โดยไม่ต้องนั่งรถเข้าเมืองเพราะสามารถลงเรือได้ทันทีที่ลงเครื่องบิน และขากลับก็จะใช้เรือโดยสารมาขึ้นเครื่องบินได้เช่นกัน ช่วยประหยัดเวลาได้มาก จากสนามบินไปหาดป่าตองทางถนนระยะทาง 50 กิโลเมตรใช้เวลา 60-90 นาที (ชั่วโมงเร่งด่วน) ทางเรือ ระยะทาง 25 กิโลเมตรใช้เวลา 25 นาที(สปีดโบ๊ต) หรือ 40 นาที (เรือโดยสาร) และจะงดให้บริการในช่วงมรสุมหนัก (ก.ค.-ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย
“คาดว่าจะมีผู้โดยสารสนามบินมาใช้บริการท่าเรือประมาณ 10% และไม่มีผลระทบต่อผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทั้งรถแท็กซี่ และธุรกิจรถเช่า หรือลิมูซีน เพราะเป็นทางเลือกที่เพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว และประหยัดพลังงานด้วย” นายประเสริฐกล่าว
ทอท.ควัก 100 ล้านเจรจาซิโน-ไทยฯ ผุดเทอร์มินัลสำรองที่ภูเก็ต
น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.กล่าวว่า ทอท.จะทำ Bus Gate เชื่อมท่าเรือ พร้อมจัดระบบกระเป๋าแยกผู้โดยสารเพื่อความสะดวก ขณะนี้ภูเก็ตหนาแน่นมาก ทำให้มีผู้โดยสารที่อยากมาแต่เดินทางเข้ามาไม่ได้อีก 20-30% ทำให้สูญเสียโอกาส โดยมั่นใจว่าโครงการจะช่วยลดความหนาแน่นของสนามบิน และรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นจาก 10.5 ล้านคนเป็น 13-14 ล้านคนต่อปีแน่นอน
ส่วนโครงการขยายท่าอากาศยานภูเก็ตมูลค่าลงทุน 5,146 ล้านบาท เพิ่มการรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี ล่าสุดที่ปรึกษาโครงการแจ้งว่างานล่าช้ากว่าแผนประมาณ 100 วัน ขณะที่บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาระบุว่างานช้าประมาณ 30 วันเท่านั้นและยืนยันว่าจะเสร็จในวันที่ 3 พฤษภาคม 2558 ตามสัญญาจ้างแน่นอนเนื่องจากใช้เทคนิคและอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งหากเสร็จช้ากว่าสัญญาจะถูกปรับวันละกว่า 3 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนได้มีการเจรจากับบริษัทซิโน-ไทยฯ ให้สลับเนื้องาน โดยเร่งก่อสร้าง 5 หลุมจอดให้เสร็จก่อนภายในสิ้นปีนี้เพื่อให้มีหลุมจอดใช้รวม 15 หลุม (ทั้งหลุมจอดที่มีสะพานเทียบเครื่องบินและหลุมจอดระยะไกล) และให้ก่อสร้างเทอร์มินัลชั่วคราวขนาด 4,000-5,000 ตร.ม. วงเงินประมาณ 100 ล้านบาทเพิ่มเติม ใช้เวลาก่อสร้าง 4 เดือน รองรับผู้โดยสารได้อีก 2-4 ล้านคนต่อปี หรือรองรับได้รวม 14 ล้านคนต่อปี จะทำให้มีรายได้เพิ่ม 500-600 ล้านบาทต่อปี โดยได้เสนอแผนลงทุนไปที่สภาพัฒน์แล้วคาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะสรุป และสามารถเปิดใช้ได้ปลายปี 2556 พร้อมกันนี้ได้ให้เวลาฝ่ายบริหาร ทอท. 2 สัปดาห์ปรับปรุงแผนพัฒนาสนามบินภูเก็ตใหม่รายงานที่ประชุมบอร์ด ทอท.ปลายเดือน มิ.ย.นี้ด้วย
