วานนี้ (23เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 เม.ย. นี้ทางรัฐสภาจะจัดให้มีพิธีลงนามสัญญาจ้างโครงการรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย กับ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ให้รับทราบงบประมาณที่จะดำเนินการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนที่ทางสภาผู้แทนราษฎรเคยเสนอของบประมาณในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่จากเดิมเคยเสนอของบประมาณไว้ที่จำนวน 11,738 ล้านบาท
และล่าสุดพบว่ามีค่าดำเนินการก่อสร้างที่ต้องใช้ทั้งสิ้น จำนวน12,280 ล้านบาท โดยตามกระบวนการเมื่องบประมาณดำเนินการโครงการใดๆ สูงกว่าจำนวนที่เคยเสนอ ไม่เกินร้อยละ 5 ต้องให้ ครม.รับทราบก่อน ทั้งนี้เมื่อลงนามสัญญาจ้างในวันที่30เม.ย.แล้ว ทางบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาจะต้องดำเนินการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 900 วัน.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี แถลง ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ราชพัสดุวง ถนนทหาร ย่านเกียกกาย วงเงิน 12,280 ล้านบาท เพื่อให้ ครม. พิจารณา โดยวงเงินดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าราคากลาง เนื่องจากราคากลางอยู่ที่ 12,287 ล้านกว่าบาท แต่กระบวนการดังกล่าวล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด จึงได้มีการเสนอขอขยายเวลาดำเนินการถึงปีงบประมาณ 59 โดยให้ใช้เวลาก่อสร้าง 900 หลังจากมีการเซ็นสัญญา ซึ่งก็ได้มีการอนุมัติไปตามที่มีการเสนอเข้ามา ซึ่งขณะนี้ทางสภาอยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญา
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติการอนุมัติการกู้เงินภายในประเทศสำหรับการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงินประมาณ 2,344 ล้านบาท ดำเนินการจัดซื้อหัวรถจักรจำนวน 20 คน พร้อมเครื่องอะไหล่ เพื่อใช้ทดแทนของเก่าที่เสื่อมสภาพและชำรุดจากการใช้งานมานาน โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน และการพิจารณาการกู้เงินเงื่อนไขและรายละเอียดตามความเหมาะสม ซึ่งการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจภายในประเทศใช้ลงทุน เพื่อเป็นการช่วยลดความผันผวนของค่าเงินบาทลงให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการกู้เงินครั้งนี้มีภายใต้กรอบวงเงินตามแผนหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2556 และกรอบวงเงินกู้ประจำปี 2556 ของ ร.ฟ.ท. ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแล้ว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2555 และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การกู้เงินจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการใช้บริการของ ร.ฟ.ท. โดยจะเป็นการทยอยกู้เงินให้สอดคล้องต่อความต้องการใช้เงินกู้เป็นคราวๆ ไป
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า กระทรวงการคลัง จะเป็นผู้จัดสรรวงเงินกู้ในประเทศให้ เพื่อใช้ดำเนินการ ภายใต้วงเงินกว่า 2,100 ล้านบาท นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมจัดซื้อหัวรถจักรอีก 50 หัว เพื่อทดแทนหัวรถจักรที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ได้รับความชำรุดและเสียหาย
และล่าสุดพบว่ามีค่าดำเนินการก่อสร้างที่ต้องใช้ทั้งสิ้น จำนวน12,280 ล้านบาท โดยตามกระบวนการเมื่องบประมาณดำเนินการโครงการใดๆ สูงกว่าจำนวนที่เคยเสนอ ไม่เกินร้อยละ 5 ต้องให้ ครม.รับทราบก่อน ทั้งนี้เมื่อลงนามสัญญาจ้างในวันที่30เม.ย.แล้ว ทางบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาจะต้องดำเนินการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 900 วัน.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี แถลง ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ราชพัสดุวง ถนนทหาร ย่านเกียกกาย วงเงิน 12,280 ล้านบาท เพื่อให้ ครม. พิจารณา โดยวงเงินดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าราคากลาง เนื่องจากราคากลางอยู่ที่ 12,287 ล้านกว่าบาท แต่กระบวนการดังกล่าวล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด จึงได้มีการเสนอขอขยายเวลาดำเนินการถึงปีงบประมาณ 59 โดยให้ใช้เวลาก่อสร้าง 900 หลังจากมีการเซ็นสัญญา ซึ่งก็ได้มีการอนุมัติไปตามที่มีการเสนอเข้ามา ซึ่งขณะนี้ทางสภาอยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญา
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติการอนุมัติการกู้เงินภายในประเทศสำหรับการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงินประมาณ 2,344 ล้านบาท ดำเนินการจัดซื้อหัวรถจักรจำนวน 20 คน พร้อมเครื่องอะไหล่ เพื่อใช้ทดแทนของเก่าที่เสื่อมสภาพและชำรุดจากการใช้งานมานาน โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน และการพิจารณาการกู้เงินเงื่อนไขและรายละเอียดตามความเหมาะสม ซึ่งการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจภายในประเทศใช้ลงทุน เพื่อเป็นการช่วยลดความผันผวนของค่าเงินบาทลงให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการกู้เงินครั้งนี้มีภายใต้กรอบวงเงินตามแผนหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2556 และกรอบวงเงินกู้ประจำปี 2556 ของ ร.ฟ.ท. ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแล้ว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2555 และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การกู้เงินจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการใช้บริการของ ร.ฟ.ท. โดยจะเป็นการทยอยกู้เงินให้สอดคล้องต่อความต้องการใช้เงินกู้เป็นคราวๆ ไป
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า กระทรวงการคลัง จะเป็นผู้จัดสรรวงเงินกู้ในประเทศให้ เพื่อใช้ดำเนินการ ภายใต้วงเงินกว่า 2,100 ล้านบาท นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมจัดซื้อหัวรถจักรอีก 50 หัว เพื่อทดแทนหัวรถจักรที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ได้รับความชำรุดและเสียหาย
