“ชัชชาติ” สั่งตรวจสัญญาเหมาซ่อมรถ ขสมก. แปลกใจปล่อยรถเสียมาก

“ชัชชาติ” จี้ ขสมก.เร่งปรับปรุงบริการ หลังพบประชาชนรอใช้บริการนาน รถเสียจอดนิ่งเกลื่อนอู่ สั่งผู้ตรวจกระทรวงฯ ลงพื้นที่เช็กสัญญาซ่อมบำรุงถูกต้องหรือไม่ แปลกใจซ่อมนาน หวั่นไม่เร่งปรับการบริการรถเมล์ใหม่ NGV เข้ามาการบริการยังไม่ดีขึ้นแน่ ยอมรับหนักใจแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมติดตามความก้าวหน้างาน/โครงการของหน่วยงานในสังกัดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ว่า ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ให้บริการเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชน คือ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งรัดปรับปรุงแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการให้บริการรถเมล์ ขสมก.ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการ โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงที่ขณะนี้มีรถจอดเสียอยู่จำนวนมากว่ามีสาเหตุมาจากอะไร

ทั้งนี้ ขสมก.รายงานว่ามีรถทั้งหมด 3,500 คัน แต่วิ่งให้บริการได้เพียง 2,750 คัน ที่เหลือเสียต้องจอดอยู่เฉยๆ ทำให้เกิดปัญหารถไม่พอบริการ ประชาชนรอรถนาน ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้บริการรถ ขสมก.วันละกว่า 3 ล้านคน ตรงนี้ต้องไปดูว่าทำไมการซ่อมถึงไม่มีคุณภาพ สัญญาซ่อมบำรุงมีความถูกต้องหรือไม่ถึงได้ใช้เวลาซ่อมนาน ส่วนปัญหารอรถนาน ต้องดูรายละเอียดว่าจะปรับวิธีการปล่อยรถอย่างไรให้ทันกับสถานการณ์ เช่น ช่วงรถติดควรปล่อยรถให้ถี่ขึ้นหรือไม่

“ขสมก.ต้องเร่งทำแผนฟื้นฟูควบคู่ไปด้วยเพื่อให้มีความพร้อมเมื่อรถเมล์ NGV 3.183 คันเข้ามาการบริการจะต้องดีขึ้น อย่าติดว่ารถเมล์ใหม่จะเป็นยาวิเศษที่จะแก้ปัญหา ขสมก.ได้ทั้งหมด เพราะถ้า ขสมก.ไม่ปรับปรุงตัวเอง รถใหม่ก็ไม่ช่วยอะไร” นายชัชชาติกล่าว

ส่วนกรมขนส่งทางบกจะต้องเร่งแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร ยอมรับว่าปัญหานี้แก้ยากแต่ต้องแก้ให้จบ รวมถึงรถตู้โดยสารใน กทม.และเส้นทางไปต่างจังหวัดจะต้องจัดระเบียบเรื่องการจอดรถอย่างจริงจัง ส่วนการย้ายสถานีขนส่งกำแพงเพชร (หมอชิต) และเอกมัยนั้น สถานีขนส่งทั้ง 2 แห่งนั้นขณะนี้มีความจำเป็นต้องย้ายอย่างแน่นนอน ส่วนย้ายไปอยู่จุดใดนั้นต้องเร่งพิจารณา ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงจะพิจารณาในภาพรวม