เร่งพัฒนาให้เห็นผลภายใน 3-5 ปีเพื่อรองรับเออีซี เตรียมประเดิมลงนาม MOU กับ จ.ขอนแก่นเป็นพื้นที่แรก ตามด้วยเชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ชี้แนวโน้มตลาดไมซ์ปี 56 ขยายตัว 15% หลังมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์มากกว่า 3.82 ล้านคนสร้างรายได้ให้ประเทศร่วม 1.25 หมื่นล้านบาทในปี 55 เผยร่วมมือกับ 3 สมาคมธุรกิจจัด 14 งานใหญ่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไมซ์ (Mice) ประกอบด้วยการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Meeting & Incentives) การประชุมนานาชาติ (Conventions) และการแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) ซึ่งถือเป็นปัจจัยเกื้อหนุนที่จะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ ลดการพึ่งพิงจากต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้จำนวนมหาศาลให้หมุนเวียนจากส่วนกลางไปยังส่วนภูมิภาค
ภาพรวมของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2555 มีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศทั้งสิ้น 3.82 ล้านคน มีจำนวนเงินสะพัดในประเทศกว่า 12,461 ล้านบาท โดยการแสดงสินค้าภายในประเทศ หรือ Domestic Exhibition ครองสัดส่วนสูงสุด 5,820 ล้านบาท ตามด้วยตลาดการประชุมองค์กรในประเทศ 3,950 ล้านบาท ตลาดการประชุมสมาคมและองค์กรภาครัฐ 1,720 ล้านบาท และตลาดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นยรางวัล 970 ล้านบาท
ส่วนในปี 2556 คาดว่าจะมีนักเดินทางเพิ่มขึ้นเป็น 4.3 ล้านคน ส่งผลให้มูลค่าตลาดโดยรวมเติบโตขึ้นประมาณ 15% หรือประมาณ 13,706 ล้านบาท ขณะที่การแสดงสินค้าภายในประเทศจะเติบโตขึ้น 10% มีมูลค่าประมาณ 6 พันล้านบาท
“การแสดงสินค้าภายในประเทศไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีส่งเสริมการขายและการตลาด ตลอดจนเป็นเวทีการค้าที่สำคัญให้แก่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาการแสดงสินค้าภายในประเทศให้เติบโตและแข็งแรงจึงเท่ากับเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจด้านการค้าและการลงทุนให้ประเทศด้วย”
สำหรับการพัฒนาการแสดงสินค้าภายในประเทศตามกลยุทธ์ของ TCEB คือเน้นวางมาตรการและการดำเนินการภายใต้แนวคิด “ไทยทีม” ในการดึงภาคเอกชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น โดย TCEB จะดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาดในการพัฒนาจังหวัดหรือเมืองใหญ่ให้เป็นศูนย์กลางการจัดการแสดงสินค้าภายในประเทศ หรือ “ไมซ์ ซิตี้” (Mice City) ซึ่งถือเป็นหนึ่งแนวทางในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไมซ์ หลังจากเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558
“การพัฒนาไมซ์ ซิตี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์เร่งด่วนที่จะดำเนินการให้เห็นผลภายใน 3-5 ปีนับจากนี้เพื่อให้ทันต่อการเปิดเออีซี โดยกำหนดโอกาสด้านการจำหน่ายสินค้าและศักยภาพทางด้านพื้นที่ของจังหวัด หรือหัวเมืองใหญ่ที่จะได้รับการพัฒนาว่าต้องมีการเดินทางคมนาคมสะดวกสบาย และมีสนามบินรองรับ รวมทั้งต้องมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาตั้งอยู่ในพื้นที่เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากร ตลอดจนมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นได้กำหนด 4 หัวเมืองใหญ่ที่จะได้รับการพัฒนา คือ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น ซึ่งจะเป็นจังหวัดแรกที่มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU ในวันที่ 15 มิ.ย. ศกนี้”
สำหรับแผนส่งเสริมการตลาดภายใต้งบประมาณปี 2556 คือการผลักดันการแสดงสินค้าสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศที่มีความต้องการสูง 3 ประเภท คือ การศึกษาและวัฒนธรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยวและบริการ โดยใช้ 3 กลยุทธ์สำคัญคือ Upgrade, Clone และ Invent ประกอบด้วย การยกระดับมาตรฐานของการจัดงานแสดงสินค้าระดับท้องถิ่นให้เป็นระดับภูมิภาค หรือประเทศ จากนั้นจึงสนับสนุนการนำจัดงานแสดงสินค้าที่ได้รับความสำเร็จในระดับประเทศไปต่อยอดการขายและจัดขึ้นในภูมิภาคอื่น ตลอดจนสนับสนุนแนวคิด หรือรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยจัดมาก่อน เพื่อเป็นการกระจายการเจริญเติบโตทางรายได้และเศรษฐกิจไปยังส่วนภูมิภาค
“การดำเนินงานตามกลยุทธ์ดังกล่าวจำเป็นต้องมีการสร้างการรับรู้บทบาทของ TCEB ในการยกระดับการจัดแสดงสินค้าและกระจายงานไปยังภูมิภาคต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จึงได้มีการร่วมมือกับสมาคมธุรกิจต่างๆ จัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2556 มีทั้งสิ้น 14 งานแสดงสินค้า”
สำหรับสมาคมธุรกิจที่ได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ TCEB แล้วมี 3 สมาคม คือ สมาคมสมาพันธ์ส่งเสริมสัตว์เลี้ยงไทย สมาคมผู้บริหารงานอาหารและเครื่องดื่มภาคตะวันออกแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย โดยภายในอนาคตอันใกล้นี้จะมีเพิ่มอีกหลายสมาคม เช่น สมาคมกล้วยไม้แห่งประเทศไทย สมาคมเซรามิกลำปาง และสมาคมเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
