xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดแข่งขันไฟเขียวเกณฑ์ควบรวมกิจการ จับตาดีลซีพีฮุบแม็คโครเล่นตุกติกเจอเล่นงานแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ดแข่งขันทางการค้าไฟเขียวเกณฑ์ควบรวมกิจการใหม่ ป้องกันธุรกิจรวมกันแล้วมีอำนาจเหนือตลาดเอาเปรียบธุรกิจอื่น จับตาดีลซีพีออลล์ซื้อแม็คโคร หลังพบมีอำนาจเหนือตลาด หากมีพฤติกรรมตุกติกเจอเล่นงานแน่ พร้อมตั้งอนุกรรมการสอบสวนกรณี M-150 กีดกันคู่แข่งรายอื่น

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า วันนี้ (6 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบผลการกำหนดหลักเกณฑ์การรวมธุรกิจตามที่อนุกรรมการกำหนดเกณฑ์การรวมธุรกิจเสนอ ซึ่งธุรกิจที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวไม่ว่าหลังรวมหรือก่อนรวมธุรกิจจะถือเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด หากกระทำพฤติกรรมที่เป็นการใช้อำนาจเหนือตลาด และถูกร้องเรียนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า 2542 ทันที

ทั้งนี้ เกณฑ์การรวมธุรกิจ ได้แก่ 1. ก่อนหรือหลังรวมธุรกิจมีส่วนแบ่งตลาดตั้งแต่ 30% ขึ้นไป และมียอดขายหรือรายได้ในปีที่ผ่านมาตั้งแต่ 2,000 ล้านบาทต่อปีขึ้นไปในสินค้าใดสินค้าหนึ่งหรือบริการใดบริการหนึ่ง 2. การเข้าซื้อหรือได้มาซึ่งหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงในคราวเดียวกันหรือหลายคราว กรณีบริษัทมหาชนตั้งแต่ 25% ขึ้นไป กรณีบริษัทจำกัดตั้งแต่ 50% ขึ้นไป และรายใดรายหนึ่งหรือทั้งสองรายรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดตั้งแต่ 30% ขึ้นไป และมียอดขาย หรือรายได้ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ 2,000 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป ในสินค้าและบริการหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้สั่งให้คณะอนุกรรมการฯ ไปศึกษาเพิ่มเติม โดยให้ไปดูว่าการออกเกณฑ์ควบรวมกิจการไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะดูแลอย่างไร เพื่อออกแนวปฏิบัติการรวมธุรกิจ (ไกด์ไลน์) และแบบคำขออนุญาตรวมธุรกิจ กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน และเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาต่อไป

นายบุญทรงกล่าวว่า กรณีการควบรวมธุรกิจระหว่างบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมได้รับทราบการเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดของทั้งสองบริษัท โดยวิเคราะห์แล้วพบว่าจะทำให้มีอำนาจต่อรองกับผู้ผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ โดยขอให้มีการจับตาในประเด็นการมีพฤติกรรมใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การเรียกค่าธรรมเนียมอย่างไม่เป็นธรรม ก็จะเข้าไปจัดการ

ส่วนกรณีบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่ประชุมมีมติเห็นแย้งกับอัยการสูงสุดหลังมีความเห็นไม่ฟ้อง โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมอันมิใช่การแข่งขันโดยเสรี และมีผลเป็นการทำลาย ขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่น ตามความผิดมาตรา 51 แต่ทั้งนี้คดีดังกล่าวได้หมดอายุความไปแล้ว

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีการห้ามขายสินค้าของคู่แข่งในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง โดยได้มีมติส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนดำเนินการสืบสวนและสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ก่อนเสนอความเห็นให้คณะกรรมการฯ ส่วนกรณีร้องเรียนเก่า คือ การจำหน่ายสุราพ่วงเบียร์ ได้ตั้งอนุกรรมการสอบสวนไปแล้ว และอนุกรรมการชุดเดิมหมดวาระเมื่อวันที่ 4 ก.พ. จึงแต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นมาใหม่เพื่อทำงานแทน

สำหรับเรื่องที่ให้ยุติการสอบสวน ได้แก่ การขายพ่วงสินค้าเครื่องดื่ม ซึ่งบริษัทจำหน่ายน้ำอัดลมเป็นผู้ถูกร้อง เพราะการตรวจสอบไม่พบพฤติกรรมบังคับขายพ่วง การสอบสวนกรณีการฮั้วราคาค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งผู้ลงทุนรายย่อยร้องเรียนสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า การที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์แจ้งอัตราแนะนำของค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ให้สมาชิกทราบเป็นเพียงการขอความร่วมมือให้สมาชิกรักษาอัตราค่านายหน้าไม่แข่งขันตัดราคา มิใช่การร่วมกันกำหนดอัตราค่านายหน้า และการตรวจสอบกรณีการกีดกันทางการค้าในธุรกิจอาหาร ซึ่งเป็นการร้องเรียนระหว่างบริษัทผู้ประกอบธุรกิจอาหาร

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นประเด็นสืบเนื่องหลังจากมีร้านค้าร้องเรียนผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 ห้ามไม่ให้ร้านค้าขายสินค้าคู่แข่ง เช่น คาราบาวแดง ซึ่งถือเป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดกีดกันสินค้าคู่แข่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น