บอร์ด ขสมก.ไฟเขียว บ. Plan B ได้สิทธิ์โฆษณาบนรถเมล์ NGV ปรับอากาศ 1,524 คันโดยไม่ต้องเปิดประมุูล โดยปรับผลตอบแทนเพิ่มและวางเงินก้อนแรก 60 ล้านบาท โดยต่อสัญญาของเดิมไปอีก 10 ปีด้วย พรัอมเตรียมประกาศร่างทีโออาร์ซื้อรถเมล์เอ็นจีวีให้ประชาชนแสดงความเห็นกลางเดือน มิ.ย.นี้
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการองค์การ (บอร์ด) ขสมก. เปิดเผยภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมว่า ที่ประชุมพิจารณาให้ ขสมก.ดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้ ขสมก.จัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 3,183 คัน เพื่อทดแทนรถโดยสารเดิมที่ใช้น้ำมันดีเซลตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท แบ่งเป็น จัดซื้อรถเมล์ร้อน 1,659 คัน และรถเมล์ปรับอากาศ 1,524 คัน โดยรับทราบขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการร่างทีโออาร์ประมูล ซึ่งกำหนดกรอบตารางการทำงานไว้เบื้องต้นแล้ว รวมถึงขั้นตอนการประชาพิจารณ์ด้วย พร้อมกับเห็นชอบเการต่อสัญญาโฆษณาบนรถ ขสมก.
นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ตามมติ ครม.จะต้องมีการตั้งผู้สังเกตการณ์ร่วมในคณะกรรมการรถเมล์ NGV ด้วยเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งคาดว่าจะตั้งได้ภายในสัปดาห์หน้า และคาดว่าร่างทีโออาร์จะเรียบร้อยประมาณกลางเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากนั้นจะต้องนำร่างทีโออาร์ประกาศผ่านเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นก่อน เมื่อเรียบร้อยจึงจะสามารถประกาศประกวดราคาได้
นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบในหลักการตามที่ ขสมก.เสนอให้ต่ออายุสัญญาจ้างบริษัท Plan B เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ติดตั้งโฆษณาบนตัวรถปรับอากาศ NGV ที่จะมีการจัดใหม่ทั้ง 1,524 คัน โดยบริษัทเสนอปรับเพิ่มผลตอบแทนให้ ขสมก.มากขึ้นจากสัญญาเดิม จากค่าตอบแทนรายเดือนที่กว่า 7,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็น 8,000 บาทต่อคันต่อเดือน และปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปีสุดท้าย ขสมก.จะได้รับผลตอบแทนเป็น 9,000 บาทต่อคันต่อเดือน พร้อมกับจ่ายเงินก้อนแรกจำนวน 60 ล้านบาททันทีเมื่อลงนามสัญญา โดยสัญญาของ Plan B จะสิ้นสุดในปี 2570 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2560
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการต่อสัญญาให้ Plan B รับสิทธิ์ติดตั้วโฆษณาบนรถ NGV โดยไม่เปิดประมูลใหม่นั้นสามารถทำได้ ซึ่งบอร์ดให้ ขสมก.จัดทำรายละเอียดและข้อกฎหมายให้ชัดเจน โดยเฉพาะการเขียนสัญญาต้องมีความรัดกุมไม่ให้ ขสมก.เสียเปรียบเอกชนเหมือนที่ผ่านมา เช่น เรื่องค่าปรับหากเอกชนผิดสัญญา ส่วนบริษัท Plan B ที่ผ่านมาถือเป็นคู่สัญญาที่ดี เมื่อรถเมล์ ขสมก.จอดเสียวิ่งไม่ได้ทำให้เอกชนเสียโอกาสแต่ไม่เคยเรียกร้องใดๆ ส่วนที่กำหนดอายุสัญญายาวถึง 10 ปีนั้นเพราะเอกชนต้องการสร้างความมั่นใจในการหาลูกค้า ซึ่งจะมีความมั่นคงกว่าการที่ได้รับการต่อสัญญาระยะสั้น