บอร์ดบีโอไอเห็นชอบกำหนดกรอบเวลาในการจัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายในธันวาคม 2556 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 เพื่อให้เวลานักลงทุนปรับตัวมากขึ้น พร้อมอนุมัติ 11 โครงการลงทุน 5 หมื่นล้านบาท
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้กำหนดระยะเวลาในการจัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ เพื่อสร้างความชัดเจน และให้นักลงทุนมีเวลาในการปรับตัวและวางแผนการดำเนินธุรกิจ โดยได้กำหนดให้บีโอไอจัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ให้แล้วเสร็จ และเสนอให้บอร์ดบีโอไอพิจารณาเห็นชอบภายในเดือนธันวาคม 2556 และกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558
“ที่ประชุมระบุให้ไปหารือกับทุกส่วนให้ครอบคลุมในบางประเด็นที่ยังเห็นว่าต้องมีการปรับปรุงให้ชัดเจนโดยเฉพาะการส่งเสริมบางกิจการต่างประเทศจะให้สิทธิประโยชน์มากกว่าไทย และให้ชัดเจนว่ากิจการใดจะไม่ส่งเสริมแล้ว ซึ่งยุทธศาสตร์ใหม่จะส่งเสริม 2 ส่วน คือ 1. สิทธิประโยชน์พื้นฐาน (Basic Incentives) และ 2.สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการ (Merit-based Incentives) “นายประเสริฐกล่าว
นอกจากนี้บอร์ดบีโอไออนุมัติ 11 โครงการใหญ่ ลงทุนรวมกว่า 54,873 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.บริษัท คอนทิเนนทัล มิลลิ่ง จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตแป้งสาลี เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,227 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 180,000 ตัน ตั้งโครงการที่ จังหวัดสมุทรปราการ โดยโครงการนี้จะเป็นฐานการผลิตและส่งออกแป้งสาลีไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตขนมขบเคี้ยว
2. บริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด ได้รับส่งเสริมให้ขยายกิจการผลิตขวดแก้ว เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,728 บาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 113,150 ตัน ตั้งโครงการที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยโครงการนี้จะผลิตขวดแก้วให้กับผู้ผลิตเครื่องดื่มในประเทศ
3. บริษัท ไทย มาลายา กลาส จำกัด ได้รับส่งเสริมให้ขยายกิจการผลิตขวดแก้ว เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,215 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 146,000 ตัน ตั้งโครงการที่จังหวัดสระบุรี โดยโครงการนี้จะเป็นการผลิตขวดแก้วเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ส่วนใหญ่จะจำหน่ายในประ
4. นายฮิโรชิ โมริโน (MR. HIROSHI MORINO) ซึ่งจะจัดตั้งบริษัทขึ้นภายหลังจากนี้ ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตชิ้นส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติ เงินลงทุนทั้งสิ้น 950 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดชลบุรี โดยโครงการนี้เป็นการลงทุนของผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพื่อป้อนชิ้นส่วนให้กับค่ายรถยนต์ชั้นนำที่จะผลิตรถยนต์เพิ่มในอนาคต
5. บริษัท บางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี (นครราชสีมา) จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เงินลงทุนทั้งสิ้น 900 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ ตั้งโครงการที่จังหวัดนครราชสีมา โดยโครงการได้รับความเห็นชอบจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และองค์การบริหารส่วนตำบลแล้ว
6. บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 4 จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,600 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 142 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 30 ตัน/ชั่วโมง ตั้งโครงการ ที่จังหวัดชลบุรี โดยโครงการนี้จะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 90 เมกะวัตต์ และที่เหลือจำหน่ายให้บริษัทต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
7. บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ เงินลงทุนทั้งสิ้น 19,150 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 970 เมกะวัตต์ ตั้งโครงการที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยโครงการนี้เป็นโรงผลิตไฟฟ้าประเภท IPP ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ(Independent Power Producer) หรือผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ ซึ่งได้รับความเห็นชอบการก่อสร้างจากคณะรัฐมนตรี ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าขนอมเดิมที่จะปลดเครื่องออกจากระบบ มีกำหนดเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในปี 2559
8. บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมกิจการขนส่งทางอากาศ เงินลงทุนทั้งสิ้น 13,710 ล้านบาท โดยจะจัดหาเครื่องบินใหม่แบบโบอิ้ง 737-800 จำนวน 15 ลำ มีความจุผู้โดยสารรวม 2,835 ที่นั่ง และมีระวางบรรทุกสินค้ารวม 30 ตัน โดยบริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของเส้นทางปัจจุบัน และขยายเส้นทางการบินไปยังต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีนจำนวนหลายเส้นทาง
9. นาย ฮาเซกาว่า นารูมิ (Mr. Hasegawa Narumi) ได้รับส่งเสริมกิจการสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค หรือ (Regional Operating Headquarter: ROH) เพื่อจัดตั้ง Technical Center และกำกับดูแลกิจการสาขาหรือบริษัทในเครือ บริดจสโตน ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาค เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,543 ล้านบาท ตั้งโครงการที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร
10.บริษัทสยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด ได้รับส่งเสริมให้ขยายกิจการผลิตแป้งมันสำปะหลัง และแป้งแปรรูป เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,250 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 112,000 ตัน ตั้งโครงการอยู่ที่ อำเภอบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
11.บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 5 จำกัด ได้รับส่งเสริมกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าชธรรมชาติ ขนาด 142 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 30 ตัน/ชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,600 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี