“พาณิชย์” ลั่นปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้ตามเป้า 8.5 ล้านตันแน่นอน แม้หลายฝ่ายไม่เชื่อ เตรียมจัดงานไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชัน 26-28 พ.ค.นี้ แสดงศักยภาพไทยฮับผลิตและค้าข้าวโลก พร้อมนัด 5 ชาติเพื่อนบ้านถกตั้งสมาพันธ์โรงสีข้าว หวังเพิ่มความร่วมมือด้านการผลิตและการค้าข้าว เผยล่าสุดเจรจาขายจีทูจีได้อีกหลายล้านตัน เตรียมชง “บุญทรง” ไฟเขียว
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2556 กระทรวงพาณิชย์ยืนยันที่จะกำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวให้ได้ปริมาณ 8.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 22% และมีมูลค่า 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% แม้จะมีหลายฝ่ายกังวลว่าเป้าหมายอาจไม่ถึง แต่จะพยายามทำให้ได้ และทำให้ดีที่สุด โดยมีแผนที่จะเร่งรัดผลักดันการส่งออกและประชาสัมพันธ์คุณภาพข้าวไทยให้ตลาดโลกรู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ข้าวไทยขายได้ราคาสูงขึ้น และเป็นไปตามแผนที่จะเน้นการเพิ่มมูลค่าการจำหน่ายมากกว่าเน้นปริมาณ
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2556 สามารถส่งออกข้าวได้แล้ว 2.01 ล้านตัน มูลค่า 1,416 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดส่งออกข้าวหลัก 3 อันดับแรก ได้แก่ อิรัก สัดส่วน 17.38% เบนิน สัดส่วน 9.36% และไอเวอรีโคสต์ สัดส่วน 7.01%
ส่วนกรณีที่หลายประเทศในเอเชียหันไปนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น ญี่ปุ่น นำเข้าจาก พม่า ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง เพราะข้าวไทยและข้าวพม่าเป็นคนละชนิดกัน โดยข้าวของพม่าเป็นข้าวเมล็ดสั้น และเป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่น ส่วนข้าวไทยเป็นข้าวเมล็ดยาว ไทยจึงส่งออกข้าวไปขายที่ญี่ปุ่นไม่มากนักในแต่ละปี
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตไทยจะมีความร่วมมือค้าข้าวกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ซึ่งนอกจากจะมีการแบ่งตลาดขายกันอย่างชัดเจนแล้ว ไทยยังอาจนำข้าวของประเทศเพื่อนบ้านไปทำตลาด หรือไปส่งออกให้ด้วย ซึ่งในช่วงปลายเดือน ส.ค. 2556 กรมฯ จะจัดประชุมความร่วมมือภาคเอกชนโรงสี ผู้ส่งออก และเกษตรกร ครั้งแรกที่ประเทศไทย เพื่อจัดตั้งสมาพันธ์โรงสีของ 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และไทย เพื่อร่วมมือในการจัดระบบการผลิต แปรรูป และการค้าข้าว
สำหรับวันที่ 26-28 พ.ค. 2556 กระทรวงพาณิชย์จะจัดการประชุมไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชัน ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อแสดงถึงศักยภาพการเป็นศูนย์กลางด้านการผลิต และการค้าข้าวของโลก โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการข้าวจากกว่า 40 ประเทศ กว่า 500 คนเข้ามาร่วมงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศอยู่ระหว่างการเจรจาขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล ที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 2554/55 และปี 2555/56 รวมถึงโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 และนาปี 2556 แบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับหลายประเทศ เช่น บางประเทศในแอฟริกา และจีน เป็นต้น ซึ่งบางประเทศสามารถเจรจาขายได้จนสำเร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการนำเสนอให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ พิจารณา ก่อนเสนอให้รัฐบาลอนุมัติ และทำสัญญากับประเทศเหล่านั้น
ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณที่จะทำสัญญาซื้อขายแบบจีทูจี น่าจะหลายล้านตันข้าวสาร ซึ่งเมื่อรวมกับสัญญาจีทูจีที่ทำเมื่อปี 2555 อีก 7.3 ล้านตัน จะรวมเป็นกว่า 10 ล้านตัน ส่งผลให้ไทยมีสต๊อกคงเหลือขณะนี้ประมาณ 4-8 ล้านตันข้าวสาร ยังไม่นับรวมข้าวเปลือกนาปรังปี 2556 ที่อยู่ระหว่างการรับจำนำ และจะสิ้นสุดโครงการวันที่ 15 ก.ย.นี้ สำหรับเงินจากการขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่จะส่งคืนกระทรวงการคลัง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2555 จนถึงเดือน เม.ย. 2556 ส่งคืนให้แล้วกว่า 80,000 ล้านบาท และจนถึงสิ้นปีนี้ จะส่งคืนได้ตามแผนที่ประมาณ 260,000 ล้านบาท